การสิ้นสุดปี 2567 นับเป็นช่วงเวลาที่สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายและความยากลำบากในหลายด้านของโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพภูมิอากาศและปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่กระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก ที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติธรรมชาติ ความยากจน ความอดอยาก และการสูญเสียที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ไม่เคยมีประวัติการเกิดปัญหาดังกล่าวมาก่อน
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ในปี 2567 โลกได้เห็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหลายประเทศ ภูมิภาคที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือมีสภาพอากาศที่เสถียร กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงโลกร้อนเกิน 1.5องศาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้พื้นที่แอนตาร์กติกาเปลี่ยนพื้นที่น้ำแข็ง กลายเป็นสีเขียว
ปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีตเริ่มปรากฏขึ้น ทั้งในพื้นที่เขตร้อนและเขตหนาว น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ เช่นกรุงนิวยอร์ก, มุมไบ, และประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นปัญหาดินถล่มที่เชียงราย และปัญหาน้ำท่วมที่ภาคใต้ ทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนต้องไร้ที่อยู่ และต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นเกษตรกรรม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ความแห้งแล้งเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ ส่งผลให้การผลิตอาหารลดลงและการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติสร้างปัญหาความอดอยากที่ยาวนานในบางภูมิภาคของแอฟริกาและเอเชียใต้ ขณะเดียวกันในบางประเทศที่มีพื้นที่ทุรกันดารกลับต้องเผชิญกับน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินชีวิตประจำวัน
พายุที่รุนแรงก็เป็นอีกหนึ่งผลกระทบที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในปีนี้ เหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นที่ทวีความรุนแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและแหล่งที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมไปถึงการทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ ของประเทศ ซึ่งหลายพื้นที่ยังไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มที่จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปีก่อน ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หลายประเทศต้องเร่งจัดการกับปัญหาสภาพภูมิอากาศด้วยนโยบายที่เข้มงวดขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี
ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสงคราม
การสิ้นสุดปี 2567 ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น การที่ประเทศต่าง ๆ ตัดสินใจที่จะสร้างพันธมิตรทางการทหารและเศรษฐกิจในลักษณะที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก การพัฒนาระเบิดทางนิวเคลียร์และการขยายอิทธิพลในภูมิภาคที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหรือทางยุทธศาสตร์สร้างแรงกดดันให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ
สงครามที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ เช่นในยูเครนและภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนจำนวนมาก และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าสำคัญ เช่น น้ำมันและอาหาร ทะยานสูงขึ้น ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อประชาชนในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา ในขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เกิดสงครามต้องเผชิญกับความรุนแรง ความไม่มั่นคง และการสูญเสียที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ การย้ายถิ่นฐานของผู้คนที่หลบหนีจากความขัดแย้งสงครามในประเทศต่าง ๆ ยังเป็นปัญหาที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้น ประเทศที่เป็นเจ้าภาพรับผู้ลี้ภัยหลายประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการกับการขยายตัวของประชากร และการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ไร้ที่อยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นต่อระบบสังคมและเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
ความยากจนและความอดอยาก
แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดความยากจนและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก แต่ในปี 2567 ความยากจนและความอดอยากยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทำให้เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ความแห้งแล้ง และพายุรุนแรงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการผลิตอาหาร การขาดแคลนทรัพยากรทำให้ราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนา ความไม่เสถียรของอาหารทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับภาวะขาดสารอาหารและโรคที่เกี่ยวข้องกับความอดอยาก
นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านการแพร่ระบาดของโรคภัยต่าง ๆ ในหลายประเทศได้สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้คนที่มีรายได้น้อยและขาดแคลนการเข้าถึงบริการสุขภาพ การแพร่ระบาดของโรคติดต่อที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนทำให้ระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอในบางประเทศต้องรับภาระหนักในการรับมือกับปัญหานี้
ความท้าทายของการร่วมมือระหว่างประเทศ
ในขณะที่โลกเผชิญกับปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น การร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศและวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นคำถามที่ยากในการตอบ ในการประชุม COP29 ที่จัดขึ้นในปี 2567 ยังเห็นได้ว่า แม้จะมีความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการลงทุนในพลังงานทดแทน แต่การแบ่งปันภาระและการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังไม่เพียงพอ การขาดการร่วมมือที่จริงจังระหว่างประเทศอาจทำให้โลกต้องเผชิญกับปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศที่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
อาจกล่าวได้ว่าในปี 2567 ที่กำลังจะสิ้นสุดนี้ แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ทวีความซับซ้อนขึ้นในหลายด้าน ทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาความยากจนและความอดอยาก สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตที่ยากจะหาทางออกในระยะสั้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การร่วมมือระหว่างประเทศยังไม่เข้มแข็งพอที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและซับซ้อนนี้ ความหวังในการแก้ไขปัญหายังคงอยู่ที่การร่วมมือกันอย่างจริงจังระหว่างประชาคมโลก เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนและสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต.