ททท.-เคทีชี-OR หนุนเที่ยววิถีชุมชน ขับรถเที่ยวเมืองรอง กระจายรายได้ท้องถิ่น

by ESGuniverse, 3 กันยายน 2567

ททท. ร่วมกับ บัตรเครดิต เคทีซี และ OR สนับสนุนการท่องเที่ยววิถีชุมชน ชวนคนไทยเที่ยวต่างถิ่นวันเดย์ทริปที่บ้านวังรี จังหวัดนครนายก มุ่งสร้างการขับรถเที่ยวแบบรับผิดชอบ เคลื่อนชุมชนสร้างรายได้ยั่งยืน

 

หนึ่งในเป้าหมายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตยั่งยืน ไม่ใช่แค่การดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการผลักดันคนไทยเที่ยวไทย ให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ

ทั้งนี้ตามนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ‘ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์’ ผู้ว่าททท. ระบุว่า ททท.มีนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปสู่ความยั่งยืนในหลายมิติ ทั้งเรื่องการดูแลผู้ประกอบการ คนในท้องถิ่น การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงทำให้ททท.จับมือกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (เคทีซี) ร่วมด้วย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัดทั่วประเทศ นำร่องปักหมุดหมายจังหวัดนครนายกเป็นเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) หนุนเที่ยวแบบวันเดย์ทริปด้วยการท่องเที่ยววิถีชุมชน เสริมสร้างการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบให้เกิดความยั่งยืน

สำหรับชุมชนบ้านวังรี ตั้งอยู่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เป็นชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นชาติพันธุ์ลาว ทั้งภาษา อาหารพื้นบ้าน การแต่งกาย การแสดงพื้นบ้าน มีการรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน โดยความร่วมมือของชาวบ้านนำกิจกรรมในชีวิตประจำวันมานำเสนอในรูปแบบที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนั้น ๆ ได้ เช่น ปั่นจักรยานชมสวนดอกดาหลาที่เป็นดอกไม้ท้องถิ่น เรียนรู้วิถีถิ่น ประดิษฐ์จานกาบหมากซึ่งเป็นอีกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติของหมู่บ้านวังรี ช่วยลดโลกร้อน ลดการใช้ขยะ ทำของที่ระลึก เพ้นท์พวงกุญแจหอยหอม กิจกรรมเดินป่าศึกษาสมุนไพรป่าชุมชน เก็บหอยหอม จับปู นวดแพทย์ไทย ทำขนมพื้นบ้าน ฯลฯ

ททท.กางแผนขับรถเที่ยวเมืองน่าเที่ยว

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ททท. ขานรับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว หรือ เมืองรอง 55 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว นำรายได้กระจายสู่ชุมชน และยังถือเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND'S TOURISM ของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก

ในครั้งนี้ จึงได้ร่วมมือกับร่วมมือกับ เคทีซี, OR และพันธมิตรอีกหลายรายออกแคมเปญ 'ขับรถเที่ยวเมืองรอง กับบัตรเครดิตเคทีซี รับเครดิตเงินคืน 4% เมื่อเติมน้ำมันที่สถานีบริการ พี่ที่ที่สเตชั่น และได้รับเครดิตเงินคืนกับสถานีบริการน้ำมันอีกหลายราย รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ

“ตั้งเป้าหมายการออกแคมเปญในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท”

พบยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตส่วนใหญ่มาจากเมืองหลัก

ด้านนางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดการท่องเที่ยวทั้งประเทศเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 เติบโตที่ 12% โดยยอดการเติบโตส่วนใหญ่มาจากหัวเมืองใหญ่จังหวัดท่องเที่ยว

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนได้ว่า การท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว ยังต้องการแรงผลักดันจากรัฐบาลและภาคเอกชนในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและนำรายได้สู่ชุมชนอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เคทีชีพร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทยให้บรรลุตามเป้าหมายของรัฐบาล โดยบริษัทฯได้มอบสิทธิพิเศษด้านการท่องเที่ยวครอบคลุมทั้งสถานีบริการน้ำมัน / ส่วนลดและแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนร้านอาหารและร้านกาแฟ 136 ร้านค้า / ส่วนลดที่พัก 41 โรงแรม และส่วนลด 9 พันธมิตรรถเช่า ทั้ง 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว

 

 

 

นครนายก เมืองน่าเที่ยวอันดับ 11 ของไทย

ขณะที่ นางวันดี เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครนายก กล่าวว่า จังหวัดนครนายก ถูกจัดให้อยู่อันดับต้น ๆ ของชุมชนน่าเที่ยว และอยู่ในอันดับ 11 ของเมืองน่าเที่ยว เนื่องจากมีความพร้อมและความสามัคคีภายในชุมชน

“ตอนนี้การท่องเที่ยวมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปเยอะมาก จะเห็นว่าการเที่ยวแบบรับผิดชอบได้เข้ามามีความสำคัญมากขึ้น และการท่องเที่ยวแบบช่วยเหลือก็เข้ามา ซึ่งหมายถึงการเที่ยวโดยเงินที่จ่ายไปมีส่วนช่วยเหลือไปจนถึงชุมชนจริง ๆ”

ชู วัตถุดิบธรรมชาติ
‘หอยหอม-ดอกดาหลา-กาบหมาก’

ด้านผู้ใหญ่บ้านถวัลย์ จำใจ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านวังรี นครนายก บอกเล่าวว่า จุดกำเนิดของบ้านวังรี มีการแก้ไขปัญหายาเสพติดจนกลายเป็นชุมชนท่องเที่ยว ด้วยการนำคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาทำกิจกรรมร่วมกัน จึงสังเกตได้ว่า บ้านวังรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอันดับต้นๆของจังหวัดนครนายก โดยมีการร่วมมือร่วมใจของคนหลากหลายช่วงวัยซึ่งเป็นจุดขายหลัก ด้วยการผนวก 3 พลังบวร บ้าน-วัด-โรงเรียน

ด้วยความเป็นชุมชนที่โอบล้อมด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์ช่วงหน้าฝนจะพบหอยหอมจำนวนมาก จึงนำมาเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการปรุงอาหารท้องถิ่น การหาหอยหอมถือเป็นอาชีพที่คนบ้านวังรีสืบทอดกันมานาน ส่วนเปลือกหอยหอมเหลือทิ้ง ยังนำมาสร้างสรรค์เป็นพวงกุญแจง่ายๆ หลายสไตล์ ไว้มอบเป็นของที่ระลึก มีการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติจริงๆ จนได้รับขนานนามว่า “มาวังรีต้องได้กินหอยหอม และขนมดอกดิน” โดยขณะนี้ได้นำเปลือกหอยหอมมาเพิ่มมูลค่า เป็นทำของที่ระลึก เพ้นท์พวงกุญหอยหอม เป็นต้น

ชาดอกดาหลา ชาสีชมพูอมแดง พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ บวกกับรสชาติอมเปรี้ยว ซ่านิด ๆ ชวนสดชื่น มีคุณสมบัติ เช่น ขับลมบำรุงเลือด นี่คือสิ่งที่ ‘ธรรมชาติ’ มอบให้เพื่อสุขภาพ และชุมชนจึงได้นำจุดนี้ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งจุดขาย

ในส่วนของจานกาบหมาก DIY รักษ์โลก จากหมากที่ร่วงลงมากับต้น ด้วยการใช้กาบหมากที่พื้นผิว มี 2 ด้าน คือ ด้านหน้าหรือด้านในมีผิวมัน ใช้สัมผัสอาหาร และด้านหลังหรือด้านนอกมีผิวด้าน คล้ายเปลือกไม้ โดยแต่ละแผ่นจะมีสี และพื้นผิวแตกต่างกัน ดูคล้ายเปลือกไม้ นำมาอัดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ให้ความร้อนเพื่อเกิดความเรียบและรูปทรงตามต้องการ ช่วยลดโลกร้อน ลดขยะ และ ย่อยสลายได้ดี

 

 

 

ขับรถเที่ยวเมืองรอง
หนุนคนไทยเที่ยวต่างถิ่น

นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิตเคทีซี กล่าวว่า แคมเปญดังกล่าวถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต เคทีซีที่วางแผนขับรถท่องเที่ยวไปยังเมืองน่าเที่ยว สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคีซีที่เดินทาง ท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัดใช้บริการที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น และชำระค่าน้ำมัน ผ่านบัตรเครดิตเคทีชีวีซ่า และบัตรเครดิตเคทีซี มาสเตอร์การ์ด รับเครดิตเงินคืน 4%

โดยมีเงื่อนไขข้อมูล จังหวัดที่อยู่ตามที่ระบุในใบแจ้งยอดของสมาชิกฯ ต้องไม่ตรงกับจังหวัดที่ตั้งของสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่ทำรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยเที่ยวต่างถิ่น และกระจายรายได้สู่ชุมชน สมาชิกสามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 นอกจากนี้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซียังสามารถใช้คะแนน KTC FOREVER จำนวน 169 คะแนน แลกรับเครดิตเงินคืน 20 บาท เมื่อมียอดการใช้จ่ายที่ร้าน คาเฟ่ อเมซอน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568

นายถนัดพล ดุละลัมพะ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และการตลาดค้าปลีกน้ำมัน OR กล่าวว่า ปัจจุบันสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ภายใต้การกำกับ ดูแลของ OR ใน 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว มีจำนวนทั้งสิ้น 1,0993 สถานี

“ความร่วมมือกับททท.และเคทีซีในครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยให้คนไทยสนใจขับรถท่องเที่ยวเส้นทางเมืองน่าเที่ยว มากยิ่งขึ้น”

การเดินทางด้วยน้ำมันทุกชนิดของ พีทีที สเตชั่น ได้รับรองมาตรฐาน EURO 5 ซึ่งมีปริมาณกำมะถันลดลงถึง 5 เท่า ทำให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลง อากาศสะอาดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันอย่างละเอียดเป็นประจำในทุกสาขา เพื่อควบคุมคุณภาพและส่งมอบน้ำมันที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคสอดคล้องกับพันธกิจหลักของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในมิติแห่งความยั่งยืน