SCGP พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวช่วยคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และการรับรอง CFP ให้แก่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย

by ESGuniverse, 21 สิงหาคม 2567

SCGP พัฒนาซอฟต์แวร์คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ช่วยคำนวณปริมาณปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) ร่วมกับ อบก. เสริมแกร่งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย

 

 

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ไม่เพียงทำให้สภาพอากาศแปรปรวน เกิดคลื่นความร้อน แล้งหนัก น้ำท่วมหนัก พายุกระหน่ำ ฯลฯ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการกำหนดกฏกติกาทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมของนานาประเทศที่เข้มงวดมากขึ้น เป็นไปเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการบังคับให้ธุรกิจที่มีการผลิตสินค้า ต้องมีฉลากที่ระบุปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product) หรือ CFP เพื่อประเมินผลรวมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้หลักการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์

สำหรับในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย ที่สามารถระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ครอบคลุมกลุ่มสินค้าเยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์กระดาษ บรรจุภัณฑ์อาหาร และบรรจุภัณฑ์พลาสติก สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 และดำเนินงานตามมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เช่น สหภาพยุโรปที่กำหนดให้ต้องระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากตัวสินค้า เพื่อส่งมอบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้า รวมถึงตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ล่าสุด SCGP ได้ต่อยอดด้วยการพัฒนาฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ที่ออกโดย SCGP (Private Declaration Label) แสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบรรจุภัณฑ์ (CFP) ด้วยการใช้ ‘ซอฟต์แวร์คาร์บอนฟุตพริ้นท์’ ช่วยคำนวณปริมาณปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างรวดเร็วเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ช่วยจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 3 เพิ่มโอกาสธุรกิจและเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย ซึ่งตั้งเป้าขอการรับรอง CFP ในกลุ่มสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย 100% ภายในปี 2027

Inclusive Green Growth
เคลื่อนธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทรานส์ฟอร์มธุรกิจในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมกับการสร้างความยืดหยุ่นเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาพนักงานให้พร้อมรับทุกสถานการณ์ การใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และบริการตรงใจลูกค้า และอีกหนึ่งการทรานส์ฟอร์มที่ SCGP ให้ความสำคัญ คือ ‘Sustainability Transformation’ หรือการขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยแนวคิด Inclusive Green Growth ที่เพิ่มการมีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างสรรค์คุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ผ่านการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

 

 

โดย SCGP ได้กำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 โดยมีแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการต่าง ๆ ทั้งการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ตลอดจนการสนับสนุนคู่ค้าและลูกค้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งห่วงโซ่คุณค่า เพื่อร่วมลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

การผลิตบรรจุภัณฑ์
ตัวการปล่อยคาร์บอนจากสโคป 3

ทั้งนี้ SCGP ยังเล็งเห็นว่า การผลิตบรรจุภัณฑ์ของบริษัทถือเป็น Scope 3 ของลูกค้าซึ่งเกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงได้ทุ่มเทความพยายามและร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในการพัฒนาแนวทางและวิธีการ เพื่อขอรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP)โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมศักยภาพการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับลูกค้า

ทำให้ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นผลสำเร็จ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ ได้แก่ กลุ่มสินค้าเยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษถ่ายเอกสาร กระดาษบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์พลาสติก จำนวน 128 ผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกระบวนการพิมพ์และการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์กระดาษรวม 16 กระบวนการ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์กระดาษ

 

 

 

ซอฟต์แวร์คาร์บอนฟุตพริ้นท์
เสริมแกร่งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย

นอกจากนี้ SCGP ยังได้พัฒนา ฉลากคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์ที่ออกโดย SCGP (Private Declaration Label) เพื่อแสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบรรจุภัณฑ์ และได้พัฒนา ‘ซอฟต์แวร์คาร์บอนฟุตพริ้นท์’ ของผลิตภัณฑ์ ที่แม่นยำ ง่าย และรวดเร็ว เพื่อเป็นโซลูชันให้กับลูกค้า สามารถดำเนินธุรกิจได้สอดคล้องกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

พร้อมกับเอกสารรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าเพื่อนำไปใช้เป็นเอกสารอ้างอิงซึ่งสอดคล้องกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐที่มีการบังคับใช้มากขึ้นในหลายประเทศ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการขาย การเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ให้ลูกค้าส่งออกกลุ่มต่างๆ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาและเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ นับเป็นการช่วยเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทยให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมด้วย

 

 

 

“SCGP เดินหน้าการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิด ESG มุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือกับผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่าเติบโตไปพร้อมกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (Inclusive Green Growth) รวมถึงการศึกษาและติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมพร้อมรับกับมาตรการใหม่ (New Regulations) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และพร้อมให้การสนับสนุนและร่วมมือกับลูกค้าในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่จะมาช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน”