ททท. เปิด 5 เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน

by ESGuniverse, 11 สิงหาคม 2567

ททท. เปิด 5 เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน ประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ฮีลใจ เปลี่ยนทุกการเดินทางให้มีความหมาย

 

 

กระแสการท่องเที่ยวยั่งยืน มาแรงจากความรู้สึกของนักท่องเที่ยว ที่ต้องการพาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่ง ของการดูแลโลก ชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ทำให้ ‘เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน’ กลายเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนกลุ่มนี้ถวิลหา

ล่าสุด การท่องเที่ยวแแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิด 5 เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืนในไทย ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชนอย่างใกล้ชิด

เส้นทางที่ 1 ดำน้ำรักษ์สิ่งแวดล้อม
Ban’s Diving รีสอร์ตบนเกาะเต่า

ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลอันงดงามพร้อมร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่ Ban’s Diving รีสอร์ตและโรงเรียนสอนดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก บนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายล้อมไปด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานจากกิจกรรมมากมาย อาทิ

นั่งโยคะ ทำกิจกรรมกลางแจ้ง และเวิร์กชอปทำผ้ามัดย้อมจากกาบมะพร้าว รวมไปถึงกิจกรรมไฮไลท์อย่างการดำน้ำที่พาไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของแนวปะการังและสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเลไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูแนวปะการัง การเก็บขยะใต้น้ำ หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล

 

 

 

 

 

เส้นทางที่ 2 ท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ
ที่เกาะหมาก จังหวัดตราด

เกาะหมาก จังหวัดตราด เป็นแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำที่ได้รับรางวัลอันดับ 2 ของโลกด้านการจัดการและการฟื้นฟู และได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนที่ติด 100 อันดับแรกของโลกจาก Green Destinations Foundation โดยนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนในบังกะโลริมทะเลที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และออกไปพายเรือคายัคสนุก ๆ ข้ามไปเที่ยวเกาะกระดาดและเกาะขายหัวเราะ พร้อมลิ้มรสอาหารทะเลสด สะอาด ปลอดภัยส่งตรงจากการประมงท้องถิ่น

รวมทั้งยังมีโครงการฟาร์มออร์แกนิกที่ส่งเสริมการปลูกผักและการทำอาหารอย่างมีความรับผิดชอบ ช่วยลดขยะและคาร์บอน นอกจากนี้ยังมีสอนทำเวิร์กชอปผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติสุดชิคที่ "Roja Studio of Art" โรงเรียนสอนทำผ้ามัดย้อมและผ้าเขียนเทียนที่อยากแบ่งปันรอยยิ้มให้ผู้คนและธรรมชาติ

 

 

 

 

 

 

เส้นทางที่ 3 เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้าน
บ้านลีซู ลอดจ์ จ.เชียงใหม่

บ้านลีซู ลอดจ์ ตั้งอยู่ในชุมชนลีซู อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นที่พักที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนและความยั่งยืนมานานกว่า 30 ปี เน้นการใช้วัสดุท้องถิ่นและวิธีการที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสนับสนุนอาชีพและโครงการพัฒนาชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งยังมีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนให้ได้สัมผัส อาทิ การล่องแพไม้ไผ่ เดินป่าชมธรรมชาติ ชิมชาจากไร่ที่ Araksa Tea Garden และปั่นจักรยานทัวร์ชุมชน

 

 

 

 

 

เส้นทางที่ 4 เที่ยวสไตล์ ECO สุดชิค

ที่ The Motifs Eco Hotel จ.จันทบุรี

The Motifs Eco Hotel ถูกปรับเปลี่ยนจากบ้านไม้เก่ากว่า 60 ปี ในจันทบุรีให้เป็นที่พักแบบอีโค่ เพื่อนำเสนอไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเน้นออกแบบให้ลดการใช้พลังงาน ด้วยการใช้แสงจากธรรมชาติและวัสดุท้องถิ่น นอกจากนี้ โรงแรมยังมีการร่วมมือกับชุมชน ทั้งงานหัตถกรรมท้องถิ่น สนับสนุนร้านอาหารของคนท้องถิ่น และใช้วัตถุดิบที่หาได้ในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นรายย่อยให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

 

 

 

 

 

 

 

เส้นทางที่ 5 สัมผัสวิถีชีวิตออร์แกนิก
ที่ Coolliving Farmhouse วังน้ำเขียว

Coolliving Farmhouse ฟาร์มสเตย์ในวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่พักที่มีให้เลือกทั้งแบบวิลล่าที่มองเห็นวิวทุ่งนา และฟาร์มเฮาส์ที่มองเห็นสวนผัก ซึ่งทั้งหมดออกแบบโดยเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติและสินค้าภายในท้องถิ่น เพื่อให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินไปความเป็นธรรมชาติและพักผ่อนกายใจไปกับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเก็บผักออร์แกนิก ให้อาหารไก่ เล่นสไลเดอร์โคลน ปั่นจักรยานชมวิวธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมเปิดต่อมรับรสด้วยอาหารเพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบออร์แกนิกที่ปรุงสดใหม่อย่างพิถีพิถันในทุกวัน

 

 

 

  

นอกจาก 5 เส้นทางท่องเที่ยวดังกล่าว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยั่งยืนที่น่าสนใจ ให้ไปค้นพบในเทศกาล Amazing Green Fest 2024 ที่ททท.จัดขึ้นร่วมกับ The Cloud ระหว่างวันที่ 15-18 สิงหาคม 2567 ที่พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ

ภายในงานยังมีกิจกรรมและเวิร์คชอปแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ การเดินทาง และการทำธุรกิจที่ยั่งยืน พร้อมเปิดให้ลิ้มลองอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพดี เปิดโลกการท่องเที่ยวแบบใหม่ สู่ประสบการณ์ที่น่าจดจำ และมีความหมายที่ดีต่อใจและสิ่งแวดล้อม