ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ อยู่ที่ 3.1% แนะภาคธุรกิจเร่งหาแนวทางและวางกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจในปีนี้ที่ยังคงชะลอตัว
เริ่มต้นปี 2024 นี้ หลายธุรกิจคงวางแผนในการขายสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด จะขายของได้ต้องดูสภาวะตลาด กำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้น การติดตามทิศทางเศรษฐกิจไทยให้ทันจึงเป็นเรื่องสำคัญก่อนวางแผนธุรกิจ โครงการ “finbiz by ttb” ศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ เพื่อธุรกิจSMEs ได้วิเคราะห์ความเสี่ยงที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า จะฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์ พร้อมกันกับแนะผู้ประกอบการรู้จักและวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจในภาวะฟื้นตัวช้าว่า มาจากปัจจัยอะไรบ้าง และผู้ประกอบการสามารถเตรียมอะไรเพื่อสร้างความได้เปรียบได้บ้าง เพราะหากตอบโจทย์นี้ได้ ก็ถือว่ามีชัยเกินครึ่ง
สำหรับปัจจัยเสี่ยง สร้างความผันผวนทางเศรษฐกิจ ในปีนี้ ได้แก่
ปัจจัยเสี่ยงแรก เกิดจากเศรษฐกิจและการค้าโลกมีความไม่แน่นอนสูง
ผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกอย่างใกล้ชิด และเตรียมรับมือ โดยกระจายความเสี่ยงทางการค้า เพิ่มตลาดส่งออกใหม่ ๆ และให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศมากขึ้น อีกทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มองหาตลาด หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ธุรกิจมีความสามารถที่จะไปได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ 2 ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนมากขึ้น
เป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องมีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรอบคอบ จัดการสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ และพิจารณาการลดภาระหนี้สินที่ไม่จำเป็น
ปัจจัยเสี่ยงที่ 3 การบริโภคในประเทศอ่อนแอ กว่าที่เห็น
ธุรกิจควรศึกษาและให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น พัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่ยึดติด และมีความเป็นปัจเจกมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการตลาดและการสื่อสาร เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย เพิ่ม Touch Point (จุดที่ลูกค้าได้เจอกับสินค้าและบริการของเรา) ให้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของผู้บริโภค
ปัจจัยเสี่ยงสุดท้าย..เสถียรภาพเศรษฐกิจเปราะบางขึ้น
ธุรกิจต้องบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบ พิจารณาการปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน
จาก 4 ปัจจัยความเสี่ยง finbiz by ttb จึงแนะนำกลยุทธ์การปรับตัว 4 แผนการรับมือกับปัจจัยที่เป็นความท้าทาย ทีผู้ประกอบการจะต้องมีความเข้าใจและเลือกใช้เครื่องมือในการสนับสนุน พร้อมกันกับเตรียมแผนรองรับให้ธุรกิจก้าวข้าม และเติบโตได้ไม่สะดุด ด้วยกลยุทธ์ก้าวข้ามความเสี่ยง 4 แนวทาง ประกอบด้วย
1) จัดการกระบวนการที่ดีเพื่อช่วยลดต้นทุน
· ลดต้นทุน ด้วยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ ตามแนวคิด LEAN
· เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยในการจัดการด้านต้นทุนได้ เช่น บัตรเครดิตน้ำมันที่ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมัน และยังช่วยในการจัดการเส้นทาง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ บนระบบออนไลน์เพื่อลดต้นทุน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินเดือนพนักงาน เป็นต้น
2) บริหารการเงิน ให้ธุรกิจมีสภาพคล่อง
การหาแหล่งเงินทุนสำรอง พิจารณาสินเชื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเสริมสภาพคล่อง รวมถึงสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้ธุรกิจได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน และเลือกใช้บริการทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวน เช่น บริการสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับการค้าระหว่างประเทศ
3) พัฒนาบุคลากรให้เป็นพนักงานคุณภาพ
ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานด้วยสวัสดิการ และระบบจ่ายเงินเดือนที่มีประสิทธิภาพที่สามารถดูแลและจัดการได้อย่างครอบคลุม
4) วางแผนการตลาด
·เพิ่มจุด Touch Point ให้ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าและบริการของธุรกิจเราได้ แบบเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้า และสามารถจับจ่ายได้ทันทีที่ตัดสินใจ ทำให้ทุกการจับจ่ายของลูกค้าสะดวก และเกิดขึ้นได้ในหลากหลายช่องทาง
· ใช้เครื่องมือที่ให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการชำระเงิน รวมถึงต้องสามารถทำได้ทันทีที่ตัดสินใจด้วยบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น เครื่องรูดบัตร EDC ลิงก์สำหรับรับชำระเงินที่สามารถรับได้ทั้งบัตรเครดิตและเดบิต รวมถึงการรับชำระด้วย QR Code และแอปพลิเคชันช่วยจัดการร้านค้า
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการตระหนักถึงสถานการณ์เศษฐกิจ และเตรียมแผนรับมือให้พร้อมอยู่เสมอ จะสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้