ภาควิชาชีววิทยา จุฬาฯ เผยภาพการค้นพบ “กะท่างน้ำดอยภูคา” กะท่างน้ำชนิดใหม่ของโลก จาก อช.ดอยภูคา จ.น่าน บ่งชี้ป่าที่สมบูรณ์-ไร้สารเคมีปนเปื้อน
วันที่ 8 ก.ค.63 สำนักอุทยานแห่งชาติ รายงานว่า นักวิจัยภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่ภาพการค้นพบ “กะท่างน้ำดอยภูคา” ซึ่งกะท่างน้ำชนิดใหม่ของโลก จากอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน บนแนวเทือกเขาหลวงพระบาง เป็นตัวชี้วัดสุขภาพป่าที่สมบูรณ์และไร้สารเคมีปนเปื้อน
โดย อาจารย์ ดร.ปรวีร์ พรหมโชติ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะทำงาน และได้รับความร่วมมือจากนักวิจัยทั้งจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้สนับสนุนจากประเทศฝรั่งเศส และมหาวิทยาลัยพะเยา


สืบเนื่องจากการที่คณะวิจัยสนใจการค้นพบกะท่างน้ำ บริเวณดอยภูคา ที่มีเรื่องเล่าการพบเห็นในนิตยสารบางฉบับมามากกว่า 20 ปีแล้ว คณะนักวิจัยจึงสนใจที่ค้นคว้าเพิ่มเติมว่า กะท่างที่พบนั้นยังมีอยู่หรือไม่ เป็นจุดเริ่มต้นของการลงพื้นที่ จนกระทั่งค้นพบในที่สุด
โดยจากลักษณะทางกายภาพของ กะท่างน้ำดอยภูคา ที่มีสีน้ำตาลแถบส้ม รวมทั้งการตรวจแถบรหัสพันธุกรรม (DNA banding) ทำให้คณะนักวิจัยทราบได้ว่า สัตว์ตัวนี้ถือเป็นกะท่างน้ำสายพันธุ์ใหม่ของโลก ที่สำคัญยังได้รับรู้ถึงความสมบูรณ์ของพื้นป่าบริเวณนี้อีกด้วย เพราะกะท่างน้ำดอยภูคา เป็นสัตว์ที่สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดสุขภาพสิ่งแวดล้อมของผืนป่าในบริเวณที่พบได้เป็นอย่างดี จากธรรมชาติของ ไข่ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัยของกะท่าง จะอยู่อาศัยได้ในบริเวณผืนป่าสมบูรณ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่ถูกทำลาย รวมถึงพื้นที่นั้นๆ ต้องไม่มีสารเคมีปนเปื้อน 100% เท่านั้น
ทั้งนี้ “กะท่าง” เป็นสิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เป็นสัตว์จำพวกนิวต์ หรือ ซาลาแมนเดอร์ขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ เพียงชนิดเดียวที่พบได้ในประเทศไทย


มีรูปร่างสีน้ำตาลคล้ำ มีแต้มสีส้มเหลืองบนส่วนปากและปุ่มบนแผ่นหลังและหางสีส้ม ด้านใต้ท้องสีออกส้มจนถึงสีน้ำตาลเหลือง ความยาวประมาณ 13-15 เซนติเมตร นิ้วเท้าหน้ามี 4 นิ้ว นิ้วเท้าหลังมี 5 นิ้ว มีลักษณะพิเศษคือ เมื่อขาหรือหางขาดไป สามารถงอกใหม่ได้ โดยจะอาศัยในลำธารตามเชิงเขา มีอาณาบริเวณแคบ ๆ มีต้นไม้ใหญ่ เช่น ยาง, ไทร, กระบาก, มะไฟ, มะกอกป่า และเถาวัลย์ขึ้นปกคลุม
สถานภาพของกะท่างในปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว แม้ในบางพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดขอนแก่นมีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า พบประชากรกะท่างในลำธารเป็นจำนวนมากก็ตาม อันเนื่องจากถูกรุกรานทางถิ่นที่อยู่อาศัย อีกทั้งถูกจับไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมีสีสันสวยงาม

ปัจจุบัน กะท่างได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 และกรมประมงได้ทำการวิจัยเพาะขยายพันธุ์กะท่างในที่เลี้ยงเป็นที่สำเร็จได้แล้ว แต่กระนั้นก็ยังต้องเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขาสูงนั่นเอง
กะท่าง มีชื่อเรียกในภาษาเหนือว่า “จั๊กกิ้มน้ำ” หรือ “จั๊กคาก” ซึ่งแปลว่า “จิ้งจกน้ำ” นอกจากนี้แล้วในประเทศไทย ยังมีการแบ่งออกได้เป็นอีก 2 ชนิดใหม่ คือ กะท่างเหนือ พบในดอยสูงของภาคเหนือ และกะท่างอีสาน พบตามเทือกเขาสูงทางภาคอีสานและจังหวัดพิษณุโลก
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ยลโฉม”ไก่ฟ้าหน้าเขียว” ปรากฏตัวชัดๆ เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ก.ทรัพยากรฯ MOU กลุ่มธุรกิจ Food Delivery ขับเคลื่อนบริการส่งอาหารไร้ขยะ
