ทีมวิจัยเบลเยียมพบแอนติบอดีในตัว “ลามะ” เร่งพัฒนาเป็นยาต้านโควิด-19

ทีมวิจัยเบลเยียมพบแอนติบอดีในตัว “ลามะ” เร่งพัฒนาเป็นยาต้านโควิด-19

ลามะกู้โลก! ทีมวิจัยเบลเยียมพบแอนติบอดี หรือสารภูมิคุ้มกันในตัว “Llama” ออกฤทธิ์ต้านโควิด-19 เร่งพัฒนาเป็นยาป้องกันและกำจัดไวรัส

 

สื่อต่างประเทศรายงานข่าวที่น่าสนใจ ระบุว่า ทีมวิจัยในประเทศเบลเยียม ได้ค้นแอนติบอดี หรือสารภูมิคุ้มกันจาก “ลามะ” หลังการฉีดโปรตีนจากเชื้อโคโรนาไวรัสโควิด-19 เข้าไปในตัวของมัน

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกนต์ของเบลเยียม และสถาบันวิจัยหลายแห่งในสหรัฐ ตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสาร Cell ระบุว่า ได้ค้นพบสารภูมิคุ้มกัน หรือแอนติบอดีของลามะ ซึ่งเคยใช้ยับยั้งการก่อโรคและต่อต้านไวรัสได้ผลมาแล้วหลายชนิด ซึ่งมีประสิทธิภาพแบบเดียวกันในการป้องกันและทำลายไวรัส SARS-CoV-2 หรือต้นตอของไวรัสโควิด-19

 

 

ศาสตราจารย์ซาเวียร์ แซลองส์ (Xavier Saelens) แห่งสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพเฟลมิช (VIB) เผยว่า ได้ทำการฉีดโปรตีนจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เข้าไปในตัวลามะเพศเมียที่ชื่อวินเทอร์ หลังจากนั้นมันก็เริ่มมีปฏิกริยาด้วยการพัฒนาแอนติบอดีขึ้นมา

รายงานการวิจัยสรุปว่า แอนติบอดีของลามะมีขนาดเล็กกว่าของมนุษย์มาก ทำให้แทรกซึมเข้าไปในโปรตีนของไวรัสได้ทั่วถึง ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วจะทำการป้องกันร่างกายจากการโจมตีของไวรัส โดยเป้าหมายของทีมวิจัยก็คือการนำแอนติบอดีที่ได้ไปพัฒนาเป็นตัวยาต่อต้านไวรัส

ทั้งนี้ llama ยามา หรือลามะ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในตระกูลอูฐ (camelid) ของทวีปอเมริกาใต้ มีต้นกำเนิดจากที่ราบตอนกลางของอเมริกาเหนือ

ลามะมีส่วนสูงในช่วงโตเต็มวัยอยู่ที่ระหว่าง 1.70 เมตร (5.5 ฟุต) ถึง 1.80 เมตร (6 ฟุต) โดยวัดจากส่วนบนสุดของหัว พวกมันมีน้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง 130-200 กิโลกรัม

 

ขนของลามะจะมีความนุ่มมากและปราศจากลาโลนิน (ไขจากขนสัตว์) เป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาดและเรียนรู้งานง่ายๆ ได้หลังจากทำซ้ำเพียงไม่กี่ครั้ง ลามะสามารถแบกสัมภาระสิ่งของได้ราวร้อยละ 25-30 ของน้ำหนักตัวในการเดินทางในระยะ 8-13 กิโลเมตร และในบางพื้นที่ของทวีปอเมริกาใต้ เชื่อว่า ลูกลามะตากแห้งจะเป็นสิ่งนำโชค มีขายในท้องตลาด

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

จีนพบเบาะแสใหม่ “โควิด-19” ไวรัสผสมกันเองระหว่าง “ตัวนิ่ม-ค้างคาว”

“ไทยสไมล์” มอบส่วนลด 10-20% ให้บุคลากรการแพทย์ ตอบแทนความเสียสละสู้โควิด-19