เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทําไมยารับประทานแต่ละชนิดจึงมีข้อบ่งใช้แตกต่างกัน และจําเป็นหรือไม่ที่เราต้องปฏิบัติตาม ยาแต่ละชนิดอาจถูกกําหนดให้รับประทานในเวลาที่แตกต่างกันด้วยเหตุผลที่จําเป็นต่างๆ
การทานยาที่ถูกต้องตามที่แพทย์แลเภสัชกรกำหนดไว้ จะทำให้ประสิทธิภาพของยาแสดงผงดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้กิน การกินยาที่ถูกต้องมีพอสังเขปดังนี้
– ยาแก้ปวดแก้อักเสบ (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs; NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Naproxen, Diclofenac ยากลุ่มนี้จะกําหนดให้รับประทานหลังอาหารทันทีเนื่องจากยาเหล่านี้มีผลระคายเคืองกระเพาะอาหาร
– ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ (Antibiotic) ควรรับประทานยาต่อเนื่องจนยาหมดหรือตามแพทย์สั่ง
ทั้งนี้มีข้อพึงสังเกตและข้อพึงระวังสำหรับ “ยาแก้อักเสบ” เนื่องจากมีการเรียก “ยาแก้อักเสบ” ในกลุ่มยาที่แตกต่างกันนั่นคือ
– ยาแก้อักเสบที่เป็นกลุ่มของยาฆ่าเขื้อ ซึ่งเราเรียกยาฆ่าเชื้อว่านั้นว่ายาแก้อักเสบเพราะเมื่อมีการติดเชื้อ จะมีผลให้เกิดลักษณะของการอักเสบ เช่น คออักเสบ แผลอักเสบ เป็นต้น การใช้ยาฆ่าเชื้อหรือยาต้านจุลชีพเพื่อกำจัดเชื้อโรคจะทำให้อาการอักเสบทุเลาลง เพราะเชื้อโรคที่เป็นสาเหตถูกจำกัด
– ยาแก้อักเสบที่ช่วยแก้ปวดและลดการอักเสบโดยตรง เช่น กลุ่มแอสไพรินหรือกลุ่มที่ไม่ใช่ สเตียรอยด์ (NSAIDs) ซึ่งใช้รักษาการอักเสบที่เกิดจากการบาดเจ็บเพราะการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การใช้เสียง ข้ออักเสบจากโรครูมาตอยด์ เป็นต้น
ถึงตอนนี้ เราจะพาท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีรับประทานยา ที่มักจะพบเห็นบ่อยๆ ได้แก่
– ยาก่อนอาหาร ให้รับประทานก่อนอาหาร ประมาณ 30 นาที
– ยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที มักจะเป็นยาที่ระคายเคืองกระเพาะอาหารมาก เช่น ยาแก้ปวดต้านอาการอักเสบกลุ่มแอสไพรินหรือกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs; NSAIDs) ให้รับประทานอาหารครึ่งหนึ่งแล้วรับประทานยา แล้วจึงรับประทานอาหารต่อจนอิ่ม หรือรับประทานอาหารคําสุดท้ายแล้วรับประทานยาทันที พร้อมดื่มน้ำตามมากๆ
– ยาหลังอาหาร ควรรับประทานหลังอาหาร 15 – 30 นาที
– ยาระหว่างมื้ออาหาร ให้รับประทานก่อนหรือหลังอาหาร 1 – 2 ชั่วโมง
– ยาก่อนนอน รับประทานก่อนเข้านอน 15 – 30 นาที กรณีที่เป็นยานอนหลับก่อนนอนเพื่อให้ผู้ป่วยนอนได้เต็มที่ โดยมากมักให้ผู้ป่วยรับประทานก่อนถึงเวลาที่ต้องตื่นนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมง ยานอนหลับควรใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น เพราะยาบางตัวมีไว้สำหรับจัดการการนอนไม่หลับในช่วงเวลาหนึ่งๆ เท่านั้น
– ยาที่รับประทานสัปดาห์ละครั้ง รับประทานวันใดควรรับประทานวันนั้นทุกๆสัปดาห์ เช่น เริ่มรับประทานยาวันอาทิตย์ก็ให้รับประทานยานั้นทุกวันอาทิตย์ เป็นต้น
– ยาที่รับประทานเมื่อมีอาการ เช่น ยาลดไข้แก้ปวดพาราเซตามอล(Paracetamol) เช่น รับประทาน 2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง เวลาปวด หมายความว่า รับประทานครั้งละ 2 เม็ดเมื่อมี อาการปวด ถ้าต่อมามีอาการปวดอีกแต่ยังไม่ถึง 4-6 ชั่วโมง ยังไม่ควรรับประทานยานั้นซ้ำอีก เพราะอาจเกิดพิษจากยาเกินขนาดได้
กรณีลืมรับประทานยา ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลามื้อต่อไปแล้วให้ข้ามมื้อที่ลืมไป อย่าเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่าในมื้อต่อไปเป็นอันขาดเพราะไม่ได้ชดเชยมื้อที่ลืมไป และอาจเกิดอันตรายหรืออาการข้างเคียงตามมาได้อีกด้วย
โรงพยาบาลศิริราชในแต่ละปีต้องรับคนป่วยที่ยากไร้มารักษา ซึ่งต่างก็เป็นผู้ป่วยที่แพทย์ในระดับท้องถิ่นส่งต่อมา ค่าใช้จ่ายจึงมีมาก ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ หากท่านผู้อ่านมีดำริจะทำบุญ เสนอให้บริจาคให้กับศิริราชมูลนิธิ คลิกดูรายละเอียดเลยค่ะ
ขอขอบคุณ : ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
น้ำมันมะกอกมีค่าต่อร่างกาย เกินกว่าที่คุณคิด
