เม็กซิโกขุดพบหลุมขนาดใหญ่เต็มไปด้วยซากช้าง นักโบราณคดีเผย เป็นกับดักที่มนุษย์หินใช้จับแมมมอธเมื่อ 15,000 ปีก่อน
เมื่อเร็วๆ นี้สื่อต่างประเทศรายงานข่าวที่น่าสนใจ ระบุว่า สถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติของเม็กซิโก (INAH) ได้ค้นพบหลุมขนาดใหญ่ 2 หลุม ซึ่งเต็มไปด้วยซากช้างแมมมอธที่ใหญ่และมีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยมีชิ้นส่วนกระดูก 800 ชิ้น จากแมมมอธ 14 ตัว
นักวิจัยจากสถาบันมานุษยวิทยาฯ กล่าวว่าหลุมดังกล่าวอยู่ที่เมืองทุลเทเปก ตอนกลางของเม็กซิโก ใกล้กับบริเวณที่จะใช้ก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ของกรุงเม็กซิโกซิตี้ ถูกพบในระหว่างการขุดบนที่ดินที่จะใช้เป็นที่ทิ้งขยะ ภายในหลุมเต็มไปด้วยกระดูกจากแมมมอธที่มีอย่างน้อย 14 ตัว ซึ่งบางตัวมีร่องรอยการถูกสังหารอย่างเห็นได้ชัด
- เกิดใหม่จากสูญพันธุ์ “ซินเจียงอุยกูร์” เพิ่มจำนวน “ม้าป่ามองโกล” ได้ 47 ตัว
- ทางการอิเหนา เป็นให้สมัครเมมเบอร์ เข้าชมมังกรโคโมโด
หลุมมีความลึกประมาณ 1.70 เมตร กว้าง 25 เมตร นักมานุษยวิทยาคาดว่า มนุษย์โบราณสร้างขึ้นมาเมื่อ 15,000 ปีก่อน ไว้เพื่อดักจับแมมมอธ โดยนักล่าอาจใช้วิธีต้อนแมมมอธให้ตกลงไปในหลุม ซึ่งถือเป็นกับดักแมมมอธแห่งแรกของโลกที่ถูกค้นพบ
ทั้งนี้ ช้างแมมมอธ หรือแมมมอธ (Mammoth) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลช้างที่อาศัยอยู่ในยุคน้ำแข็งเมื่อกว่า 20,000 ปีก่อน จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับช้างในปัจจุบัน โดยคำว่า “แมมมอธ” นั้นมาจากคำว่า “Mammal” หรือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
แมมมอธ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปยุโรปและเอเชียเหนือ เช่น ไซบีเรีย ยกเว้นออสเตรเลียและอเมริกาใต้ เป็นช้างที่มีลำตัวและงาใหญ่กว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก ขนาดโดยเฉลี่ย 4 เมตร ตั้งแต่เท้าจนถึงหัวไหล่ มีสีขนที่หลากหลายตั้งแต่น้ำตาล หรือน้ำตาลออกเหลือง ผิวหนังหนาและมีชั้นไขมันเป็นฉนวนกันความหนาว มีส่วนหัวที่กลม ใบหูเล็กกว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก มีโหนกไขมันอยู่บริเวณส่วนหลัง มีงายาวโค้งได้ถึง 4 เมตร
แมมมอธ กำเนิดขึ้นมาเมื่อราว 2.6 ล้านปีก่อน ในยุคไพลโอซีนตอนต้น และสูญพันธุ์อย่างสิ้นเชิง เมื่อ 11,700 ปีที่ผ่านมา โดยแมมมอธตัวสุดท้ายที่สูญพันธุ์ คือ แมมมอธแคระ ที่อาศัยบนเกาะแรงเกล ในทะเลอาร์กติก เมื่อราว 3,700 ปีก่อน
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
เกิดใหม่จากสูญพันธุ์ “ซินเจียงอุยกูร์” เพิ่มจำนวน “ม้าป่ามองโกล” ได้ 47 ตัว
