ครอบครัวบิลลี่เข้ารับเงินเยียวยา พร้อมผู้เสียหายในคดีอื่นๆ จากกระทรวงยุติธรรม ด้าน สมศักดิ์ เผยงบประมาณปี 2563 รัฐบาลจัดสรรเยียวยา 450 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายเพิ่มเติมได้อีก
ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการคุ้มครองสิทธิ : เพื่อสร้างวิถีชีวิตแห่งความเท่าเทียม พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา 12 จังหวัด รวมจำนวน 217 ราย และมีในส่วนของกรณีของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ เป็นเงิน 13,455,584 บาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 62 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จำนวน 300 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายและจำเลยมีเป็นจำนวนมาก ทำให้การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาหมดลงตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. โดยมียอดค้างจ่ายถึง 3,325 ราย
อย่างไรก็ดี ตนได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ขอรับการจัดสรรงบกลางจนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา จํานวน 176,788,000 บาท และได้ทยอยมอบให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณ ได้ใช้จ่ายงบที่ได้รับมาทั้งหมดประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในปีงบประมาณ 2563 นี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้รับงบประมาณสำหรับจ่ายเยียวยาให้ผู้เสียหายและเหยื่อในคดีอาญาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 450 ล้านบาท โดยเพิ่มเติมจากปีงบประมาณ 62 จำนวน 150 ล้านบาท และหากไม่เพียงพอ สามารถของบกลางมาจ่ายเพิ่มเติมได้ และเมื่อรวมกับงบประมาณของกองทุนยุติธรรมจะมีเงินช่วยเหลือประมาณ 800 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้เพียงพอและเยียวยาผู้เสียหายได้ทันท่วงที
“วันนี้ตนได้แจ้งทุกจังหวัดให้เชิญส.ส.ทุกพรรคร่วมเป็นสักขีพยานในการจ่ายเงินเยียวยาว่าจ่ายครบถ้วนหรือไม่ และเพื่อให้ส.ส.ช่วยกันประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาให้ทราบถึงสิทธิ์ตามกฎหมาย ส่วนกรณีการเสียชีวิตของบิลลี่ได้พูดคุยกับภรรยาและแม่ของผู้ตายให้อดใจรอผลการสอบสวน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หากเร่งรัดอาจทำให้สำนวนคดีไม่รัดกุม” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ผู้เสียชีวิต ได้กล่าวหลังจากได้รับเงินเยียวยาว่า ตนจะนำเงินที่ได้ในวันนี้นำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับลูก 4 คน ส่วนเงินประกันชีวิตของนายบิลลี่ที่ทำไว้เมื่อปี 2556นั้น เมื่อได้รับแล้วจะนำไปใช้เป็นค่าซ่อมบ้าน เพราะบ้านที่อยู่ปัจจุบันทรุดโทรมมากจนใกล้พัง สำหรับตนหลังนายบิลลี่หายตัวไปก็ทำไร่ทำสวนเลี้ยงลูก ยอมรับว่าอยู่ในพื้นที่แม้จะได้รับการคุ้มครองพยาน แต่ก็ยังมีความกังวล และสิ่งที่กลัวที่สุดคือ กลัวคู่กรณีใช้อิทธิพลแทรกแซงคดี
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันตามคดี ‘บิลลี่’ ถึงที่สุด
