ประจำเดือน หรือ “วันนั้นของเดือน” คือ สิ่งที่เพศหญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนจำเป็นต้องเจอะเจอทุกเดือนๆแต่ละคนก็มีลักษณะและลักษณะที่ต่างกัน
บางคนก็ผ่านระยะเวลานี้ไปได้ด้วยดี แต่ว่าบางคนกว่าจะผ่านไปได้ก็ทุลักทุเลไม่น้อย บ้างถึงกับต้องลาหยุดก็มี ความยากลำบากที่เกิดขึ้นจนกระทบชีวิตประจำวันนั้นบางทีอาจหมายความ “ประจำเดือนมาไม่ปกติ” ด้วยเหตุผลดังกล่าวเพศหญิงทุกคนจำเป็นจะต้องเรียนรู้ว่าประจำเดือนแบบไหนที่เรียกว่า “ผิดปกติ” ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากถ้ามีปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
สิ่งที่ควรจะรู้คือ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป นั่นไม่ได้ระบุว่า “คุณตั้งท้องเสมอ” แต่บางทีอาจเป็นอาการ หรือสัญญาณของความผิดปกติอะไรบางอย่างภายในร่างกายของคุณก็ได้
จะรู้ได้ยังไงว่า ประจำเดือนพวกเราปกติไหม?
ให้ลองถามตัวคุณเองก่อนว่า :
* ประจำเดือนมาเสมอไหม
* จำนวนประจำเดือนต่อรอบมากน้อยแค่ไหน มีกี่วัน
* ประจำเดือนมานานเกิน 8 วัน ต่อรอบหรือไม่
* ทุกๆวันคุณใช้ผ้าอนามัยกี่ชิ้นต่อวัน
* เมื่อคุณเปลี่ยนผ้าอนามัย เลือดประจำเดือนมีมากแบบเปียกโชก หรือเปียกแค่เล็กน้อย
* ประจำเดือนหนสุดท้ายมากี่วัน
* ประจำเดือนเป็นเลือดก้อนปนออกมาด้วยหรือไม่
* ประจำเดือนมีกลิ่น หรือมีไข้ร่วมด้วยหรือเปล่า
* สีของประจำเดือนิดปกติหรือเปล่า
คุณไม่จำเป็นที่ต้องจดบันทึกข้อมูลเหล่านี้ แค่เพียงอาศัยการสังเกตก็พอเพียงแล้ว
รูปแบบของประจำเดือนบ่งชี้เกี่ยวกับสุขภาพได้มากมาย มาดูกันว่าประจำเดือนสามารถบอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายและสุขภาพของคุณได้บ้าง
* อาการปวดท้องประจำเดือน
ตอนมีเมนส์จะมากับลักษณะของการปวดท้องอีกทั้งแบบปวดบีบรวมทั้งปวดเกร็ง จากการการสำรวจพบว่า ประมาณจำนวนร้อยละ 70 ของเพศหญิง จำเป็นต้องทนทุกข์จากความเจ็บบริเวณท้องน้อยแล้วก็มีลักษณะอาการท้องอืดระหว่างช่วงมีเมนส์ การที่พวกเรารู้สึกเจ็บปวดท้องในทุกๆเดือนนั้น มีต้นเหตุที่เกิดจากการหดรัด หรือการเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูกรอบๆเยื่อบุมดลูด เมื่อเยื่อบุมดลูกหลุดลอกออกมาในแต่ละเดือนจะทำให้สารที่คล้ายฮอร์โมนชื่อว่า “โพรสตาแกลนดิน (Prostsglandin)” หลั่งออกมาและกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการปวด หรืออาการอักเสบตามมา ยิ่งร่างกายหลั่งสารโพรสตาแกลนดินออกมาเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้การบีบรัดตัวเกิดขึ้นมากแค่นั้น พูดง่ายๆปวดท้องมากเพิ่มขึ้นนั่นเอง แม้กระนั้นหากว่าคุณมีอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างหนักหลายครั้งๆหรือทุกเดือนระหว่างมีรอบเดือน เสนอแนะให้พบแพทย์เฉพาะทาง เพราะลักษณะของการปวดนี้อาจบ่งถึงความผิดปกติบางประการ เป็นต้นว่า เยี่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในมดลูก ความผิดปกติแต่กำเนิดของช่องคลอด หรือปากมดลูก แผลที่ช่องคลอด การติดเชื้อ
* จำนวนของประจำเดือน
โดยธรรมดาประจำเดือนจะมามากในช่วงวันแรกๆรวมทั้งค่อยๆลดลงจนถึงหยุดท้ายที่สุด จำนวนประจำเดือนในหญิงแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน โดยธรรมดาเลือดประจำเดือนจะต้องมาไม่เกิน 80 ซีซีต่อ 1 รอบ
จะทราบได้เช่นไรว่าประจำเดือนแบบไหนเรียกว่ามามากหรือมาปกติ?
* หากคุณเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2 หรือ 3 ชั่วโมง โดยที่ผ้าอนามัยเปียกชุ่มทุกหน หรือจำนวนเลือดรวมของการมีเมนส์มากยิ่งกว่า 80 ซีซีต่อ 1 รอบ จัดว่า คุณมีประจำเดือนมามาก
* ถ้าหากคุณเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมงและก็ยังคงเป็นแบบงี้อย่างต่อเนื่องไปอีก 7-8 วัน คุณจะไม่จัดว่า เป็นคนที่มีเมนส์มามาก แต่ว่าจะจัดว่าเป็นเป็นคนที่มีเมนส์มา “ไม่ปกติ” ซึ่งอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการขาด หรือมีมากเกินความจำเป็นของฮอร์โมนเอสโตรเจนรวมทั้งโปรเจสเตอโรน
* แม้คุณเปลี่ยนผ้าอนามัย 2-3 ชิ้นต่อวัน จัดว่า มีรอบเดือนปกติ
* ถ้าเกิดประจำเดือนมาน้อยกว่า 5 ซีซีต่อรอบ โดยไม่ได้ใช้ยาคุม หรือฮอร์โมน จัดว่า มีประจำเดือนธรรมดา
* ถ้าเกิดประจำเดือนมากะปริดกะปรอย มาๆหยุดๆทั้งเดือน จัดว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ
ประจำเดือนมาไม่ปกติอาจเกิดขึ้นจาก การรับเชื้อ, โรคฮีโมฟิเลีย, เลือดจาง, ฮอร์โมนไม่สมดุล, เนื้องอก หรือเนื้องอกในสมอง ด้วยเหตุผลดังกล่าว หากคุณมีการเปลี่ยนที่แตกต่างจากปกติของปริมาณเลือดประจำเดือน ให้พบแพทย์ทันที
* สีของประจำเดือน
สีประจำเดือนจะเปลี่ยนไปแตกต่างกันในแต่ละครั้งแต่ละเดือนขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของเลือด เลือดที่ออกมาในช่วงต้นๆจะมีสีแดงคล้ำเล็กน้อย และก็ต่อมากลายเป็นสีแดงสด แต่บางรายอาจเริ่มต้นรอบด้วยประจำเดือนสีแดงสดรวมทั้งเข้าสู่ช่วงท้ายของประจำเดือนสีก็จะเข้มขึ้นอาจเหมือนสีน้ำตาล ถ้ามีสีผิดปกติร่วมกับประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจเป็นเพราะโรค เช่น ประจำเดือนสีจาง เหมือนน้ำล้างเนื้ออาจเกี่ยวกับโลหิตจาง ประจำเดือนสีราวกับน้ำเหลืองบางทีอาจเกี่ยวเนื่องกับเนื้องอก หรือโรคมะเร็ง
* รอบประจำเดือน
ประจำเดือน มีความหมายตรงตัวว่า มีเดือนละ 1 ครั้ง โดยธรรมดารอบประจำเดือนจะอยู่ที่ 24 ถึง 38 วัน โดยเริ่มนับจากวันแรกที่มีประจำเดือน ถ้าหากประจำเดือนมาซ้ำในช่วงเวลาเดิม จะนับว่ารอบประจำเดือนธรรมดา ถ้ามาถี่กว่านี้ หรือมานานกว่านี้ถือว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ ทั้งนี้ในแต่ละรอบควรใกล้เคียงกัน หรือห่างกันไม่เกิน 7-9วัน กรณีที่มิได้ตั้งท้องแต่ประจำเดือนหายบ่อยมาก บางทีอาจระบุว่า คุณมีโรคของต่อมไทรอยด์ หรือระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดก้อนซีสต์ในรังไข่ได้ แม้กระนั้นบางโอกาสก็อาจมีปัจจัยมาจากความเครียดก็ได้ ด้วยเหตุนี้ถ้าหากประจำเดือนขาดหายบ่อยมาก จึงต้องควรไปพบหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
* ปริมาณวันที่มีประจำเดือน
โดยปกติสตรีจะมีรอบเดือนนาน 2 ถึง 6 วัน โดยประจำเดือนจะมามากมายในตอน 3 ถึง 4 วันแรก แม้กระนั้นหากมีเลือดประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นต้นว่า นานเกิน 8 วัน ควรปรึกษาแพทย์
การที่ประจำเดือนมาไม่ปกตินั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะปัจจัยดังต่อไปนี้ เช่น ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นโรคเลือด มีการอักเสบติดเชื้อ เป็นโรคมะเร็ง มีเนื้องอก มีซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ มีการอักเสบติดเชื้อโรคที่ปากมดลูก อย่างไรก็แล้วแต่ หากเกิดความผิดปกติเกิดขึ้นกับคุณ ไม่ควรอยู่เฉย หรือใช้ความเชื่อสำหรับการตัดสิน เช่น ยิ่งประจำเดือนมีมาก ยิ่งหมดเร็ว ประจำเดือนเป็นเลือดเสีย ถ้าหากมีสีคล้ำๆตลอดรอบเดือนก็ถือเป็นเรื่องปกติ แม้กระนั้นควรรีบไปพบหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็เลยเหมาะสมที่สุด
ขอขอบคุณ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
