ดร.ธรณ์ ชี้ “ฉลาม” ยังไม่เป็นสัตว์คุ้มครอง ขายเกลื่อน ไม่ผิดกฎหมาย

ดร.ธรณ์ ชี้ “ฉลาม” ยังไม่เป็นสัตว์คุ้มครอง ขายเกลื่อน ไม่ผิดกฎหมาย

ยังไม่เป็นสัตว์คุ้มครอง! ดร.ธรณ์ เผย บาดใจเห็นฉลามหูดำโดนหั่นเป็นชิ้นๆ วางขายที่เกาะลันตา ชี้ ยังไม่ได้เป็นสัตว์คุ้มครอง จึงขายได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ย้ำ ปลาชนิดนี้มีสำคัญต่อระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหาร

วันที่ 21 ส.ค.62 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” ถึงกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพการขายฉลามหูดำที่เกาะลันตา ระบุว่า ฉลามไม่ได้เป็นสัตว์คุ้มครอง การขายจึงทำได้ไม่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า กระบี่เป็นแหล่งที่มีรายงานฉลามหูดำมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปลาชนิดนี้มีความสำคัญต่อระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารในทะเล

โดยโพสต์ดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

“#จุดจบของราชา
#เราจะฆ่าพวกเธออีกเท่าไหร่

ภาพฉลามหูดำโดนหั่นเป็นชิ้นๆ วางขายที่เกาะลันตา ไม่ไกลจากอ่าวมาหยาและเกาะห้องอันเป็นที่อยู่ของฝูงฉลาม เป็นภาพที่บาดตาบาดใจคนรักทะเล จึงขออธิบายดังนี้ครับ

1. ฉลามหูดำและฉลามอีกนานาชนิดยังไม่ได้เป็นสัตว์คุ้มครอง ผมพยายามดันไปหลายหนแล้ว ก็หวังว่าจะคืบหน้าบ้าง โดยเฉพาะฉลามหัวค้อน ฉลามเสือดาว ที่จำนวนลดอย่างเร็ว

2. เมื่อไม่เป็นสัตว์คุ้มครอง การขายจึงทำได้ไม่ผิดกฎหมาย

3. แม้ทะเลกระบี่จะเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยมีรายชื่อฉลามเป็นสัตว์ห้ามจับ แต่กำหนดขนาดว่าไม่เกิน 50 เซนติเมตร

เพราะฉะนั้น ที่พอจะทำได้คือ

1. ผลักดันให้ฉลามเป็นสัตว์คุ้มครอง เอาทีละชนิดสองชนิดก็ยังดี ซึ่งก็ต้องพยายามเต็มที่ต่อไป

2. แก้ประกาศหรือทำอะไรก็ได้ให้ขนาด 50 เซนติเมตรหายไป จะได้ห้ามจับฉลามทุกไซส์ในพื้นที่คุ้มครอง (ขนาดดังกล่าวมีที่มาอย่างไร ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ)

3. ผลักดันให้เกิดการวิจัยฉลาม โดยเฉพาะในพื้นที่กระบี่ และในเขตอุทยาน เพื่อเราจะได้มีความรู้มากขึ้น พอที่จะนำไปจัดการอะไรได้

ถึงตอนนี้ บอกได้เพียงฉลามสำคัญต่อระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารแน่นอน ฉลามยังสำคัญต่อการท่องเที่ยว และกระบี่เป็นแหล่งที่มีรายงานฉลามหูดำมากที่สุดในประเทศไทย

ลองดูภาพเปรียบเทียบแล้วกันว่า ที่ใดคู่ควรกับฉลาม ที่ใดฉลามจึงสมควรเรียกว่า ราชาแห่งมหาสมุทร…”

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ผลชันสูตรซากพะยูนกระบี่ พบเงี่ยงกระเบนแทงลำไส้