“รองเท้า” จากขยะ “รองเท้า” นันยาง จับมือ “ทะเลจร” ปลูกจิตสำนึกในการลดขยะในทะเลและบนบก เปิดตัวรองเท้าแตะรุ่นพิเศษ “KHYA” (ขยะ) รีไซเคิลจากขยะรองท้าที่เกลื่อนในทะเล
ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่สนใจในทุกวงการ โดยเฉพาะแวดวงธุรกิจ ที่นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมแล้ว ยังเป็นการตลาดส่วนหนึ่งที่หนุนเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ได้อย่างสร้างสรรค์
โดยล่าสุด บริษัทนันยางอุตสาหกรรมจำกัด ผู้ผลิตรองเท้าในตำนาน ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาขยะในทะเล โดยร่วมมือกับ“ทะเลจร” แบรนด์ Upcycling ร่วมปลูกจิตสำนึกในการลดขยะในทะเลและบนบก ด้วยการนำเสนอรองเท้ารุ่นพิเศษ “KHYA” (ขยะ) รองเท้ารีไซเคิล จากขยะทะเลที่เป็นรองเท้าแตะ
นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัทนันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เผยถึงที่มาของแนวคิดในการพัฒนารองเท้าขยะและเป้าหมายของโครงการในครั้งนี้ว่า เนื่องจากปัญหาขยะทะเลเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญอย่างมาก
ปัจจุบันพบว่านอกจากพลาสติกแล้ว “รองเท้า” โดยเฉพาะรองเท้าแตะ มักถูกพบเป็นขยะทะเลจำนวนมาก จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาขยะทะเล การมองเห็นคุณค่าของขยะ รวมถึงการนำขยะมาเพิ่มมูลค่า และเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยวิธีการของตัวเองได้ตามความถนัด
ด้านนายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท นันยางอุตสาหกรรมจำกัด เผยถึงขั้นตอนการผลิตรองเท้า KHYA (ขยะ) ว่าบริษัทได้รับขยะรองเท้าแตะมาจาก กลุ่มอาสาสมัคร Trash Hero ที่รวมตัวกันเก็บขยะทะเล และได้แยกประเภทขยะ เพื่อส่งต่อขยะรองเท้าจำนวนมากไปยังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานีที่ทำการชั่วคราวของกลุ่ม “ทะเลจร” เพื่อเตรียมวัตถุดิบขั้นแรกและส่งต่อมาที่ “นันยาง” เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตแบบจำนวนมาก โดยส่วนพื้นล่างของรองเท้าเป็นส่วนพื้นจริงของรองเท้าแตะช้างดาวที่มีความอดทนและเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
สำหรับรองเท้า KHYA (ขยะ) 1 คู่เกิดจากการเก็บขยะทะเลประมาณ 5 กิโลกรัม ถ้า200 คู่ เท่ากับการเก็บขยะ 1,000 กิโลกรัม (1 ตัน) ทั้งนี้ โปรเจ็กต์ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสังคมที่ต้องการให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาและคุณค่าของขยะ และหวังว่าจะเป็นสิ่งที่จุดประกายผู้ประกอบการนักคิดรุ่นใหม่ที่จะร่วมกันสร้างโลกให้น่าอยู่ต่อไป
โดยรองเท้า KHYA ที่เปิดตัวในครั้งนี้จะเปิดจำหน่ายเพียง 9 วัน และผลิตตามคำสั่งซื้อเท่านั้น จะไม่ผลิตเกินและไม่ผลิตซ้ำ ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายรองเท้าจะถูกนำกลับไปมอบให้แก่หน่วยงานและโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainble Development) ต่อไป
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“อ่าวนาง” ชู “ธรรมนูญสุขภาพ” แก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน
