เผยกลยุทธ์การลงทุนรับมือเศรษฐกิจโลกผันผวนในปี 2568 พร้อมแนะการสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่งผ่านการกระจายสินทรัพย์ และตราสารหนี้คุณภาพสูง
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดงานสัมมนาการลงทุนประจำปี 2568 มุ่งเน้นการให้ข้อมูลเชิงลึกและแนวทางบริหารพอร์ตการลงทุนท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง พร้อมแนะนำกลยุทธ์สำคัญเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้นักลงทุนไทย
เศรษฐกิจโลกปี 2568 และผลกระทบต่อตลาดการลงทุน
ในปี 2568 แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และการกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ภาษีนำเข้า และอัตราเงินเฟ้อ นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามการประกาศนโยบายสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และจะเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2569
ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตร้อยละ 2.9 ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และความคาดหวังต่อการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยง เช่น หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องจับตา
เอเบล ลิม Head of Wealth Management Advisory and Strategy กลุ่มธนาคารยูโอบี ให้คำแนะนำสำคัญในการจัดการกับความผันผวนในตลาดระยะสั้น โดยเน้นกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ การกระจายการลงทุนเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาด และการใช้ประโยชน์จากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ เขากล่าวว่า “ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงเช่นนี้ ควรมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งเป็นบริษัทที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้น้อยกว่า กลยุทธ์หลักสามประการที่ต้องให้ความสำคัญคือการสร้างรายได้ การจัดการความผันผวน และการใช้ประโยชน์จากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์”
กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำสำหรับปี 2568
ทีมที่ปรึกษาการลงทุนของยูโอบีแนะนำให้นักลงทุนสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่น โดยเน้นการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูงเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโต ดังนี้
- การลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Investment Grade – เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
- การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Strategy) – เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร และสินค้าโภคภัณฑ์
- การลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงที่มีเงินปันผล – หุ้นที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่งและมีผลตอบแทนต่อเงินลงทุนที่ดี เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอน
- การใช้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ – การเปลี่ยนแปลงด้านภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบทางการเงินอาจสร้างโอกาสให้กับภาคธุรกิจบางกลุ่ม เช่น การเงิน เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมการผลิต
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่แม่นยำ
ยูโอบี ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารความมั่งคั่ง โดยเปิดตัว “My Wealth Planner” เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนการลงทุนตามเป้าหมายทางการเงินของตนเองได้ โดยระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อแนะนำกลยุทธ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน UOB TMRW ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อ ขาย และสับเปลี่ยนกองทุนได้ง่ายขึ้น พร้อมเข้าถึงกองทุนระดับโลกจากบริษัทชั้นนำ เช่น Fidelity International และ Goldman Sachs
ยูโอบีแนะนำให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับการกระจายพอร์ตและเลือกลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดในปี 2568 นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีในการบริหารความมั่งคั่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ : รพ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ใช้เทคโนโลยีนัดหมายแพทย์เร็วขึ้น 50%
อ้างอิง : https://www.setinvestnow.com/th/bond
