กลยุทธ์การบูรณาการ EI กับ AI เพื่อส่งเสริม ESG และความยั่งยืน

กลยุทธ์การบูรณาการ EI กับ AI เพื่อส่งเสริม ESG และความยั่งยืน

การมี AI (Artificial Intelligence) แต่ไม่มี EI (Emotional Intelligence) ในการสร้างความยั่งยืนจะส่งผลเสียหลายประการ เพราะทั้ง AI และ EI มีบทบาทสำคัญที่แตกต่างกันในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในบริบทของการพัฒนามนุษย์, สังคม, และสิ่งแวดล้อม โดยมีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหลายอย่าง

 

 

 

 

โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร

Co-Founder IDGs Asia Pacific Innovation Center -Leadership Hub Thailand

CEO University of Happiness

ผู้แต่งหนังสือขายดี : ศาสตร์ผู้นำสู่ความยั่งยืน, เหนือกว่ากำไร, Well-Being Leader,  DNA Of Leadership Happiness

 

 

การมี AI (Artificial Intelligence) แต่ไม่มี EI (Emotional Intelligence) ในการสร้างความยั่งยืนจะส่งผลเสียหลายประการ เพราะทั้ง AI และ EI มีบทบาทสำคัญที่แตกต่างกันในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในบริบทของการพัฒนามนุษย์, สังคม, และสิ่งแวดล้อม โดยมีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหลายอย่างเช่น

 

– ขาดการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์

AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจโดยไม่มีอารมณ์ แต่การสร้างความยั่งยืนในระดับมนุษย์ต้องอาศัยความเข้าใจและการจัดการกับอารมณ์ การขาด EI อาจทำให้ AI ไม่สามารถประเมินหรือรับรู้ผลกระทบทางอารมณ์ที่การตัดสินใจอาจมีต่อบุคคลหรือชุมชนได้ เช่น การปรับตัวของมนุษย์ในบริบทของเทคโนโลยีใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

 

– การตัดสินใจที่ขาดความเห็นอกเห็นใจ

ในหลายๆ สถานการณ์ การตัดสินใจที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การคำนวณหรือข้อมูลที่มีอยู่ แต่ยังต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางสังคมและมุมมองของบุคคลอื่น หากไม่มี EI การตัดสินใจที่ทำโดย AI อาจไม่คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนในสังคม เช่น การตัดสินใจที่ขัดแย้งกับความเป็นธรรม หรือไม่ช่วยส่งเสริมความร่วมมือในชุมชน

 

– การขาดการสร้างสัมพันธ์และการสื่อสาร

EI เป็นทักษะที่สำคัญในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งจำเป็นในการพัฒนาความยั่งยืนในองค์กรหรือสังคม หาก AI ขาด EI การสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลในทีม, ลูกค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจอาจทำได้ไม่ดี ซึ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือการขาดความร่วมมือในการพัฒนาโครงการที่ยั่งยืน

 

– เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสังคม

การพึ่งพา AI ที่ไม่สามารถรับรู้หรือจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่สมดุลหรือไม่ยุติธรรมได้ เช่น การเลือกปฏิบัติ หรือการละเลยสิทธิและความเป็นธรรมของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการตกงานหรือการตกต่ำทางเศรษฐกิจ อาจเกิดการแตกแยกในสังคมและผลกระทบระยะยาวที่ไม่ยั่งยืน

 

– ความไม่สามารถปรับตัวและยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่ซับซ้อน

EI ช่วยให้มนุษย์สามารถปรับตัวและมีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด การขาด EI ใน AI อาจทำให้เครื่องมือเหล่านี้ขาดความยืดหยุ่นในการจัดการกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนหรือไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อความยั่งยืนในระยะยาว

 

การบูรณาการ EI กับ AI เพื่อส่งเสริม ESG และความยั่งยืน

 การนำ AI มาใช้ในบริบทที่ต้องการสร้างความยั่งยืนต้องมีการพิจารณาควบคู่ไปกับการพัฒนา EI ของมนุษย์ด้วย เพราะการตัดสินใจที่ดีไม่ใช่แค่การคำนวณข้อมูล แต่ต้องมีการพิจารณาถึงผลกระทบต่อคนและสังคม การเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก และมุมมองของผู้อื่นจะทำให้การใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างความยั่งยืนได้อย่างแท้จริงและมีความสมดุลมากขึ้น

ในปัจจุบัน การพัฒนาอย่างยั่งยืนกลายเป็นประเด็นสำคัญที่องค์กรทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวางกลยุทธ์ ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารจัดการองค์กร การนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) มาใช้ร่วมกับ EI (Emotional Intelligence) จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

 

  1.   ความจำเป็นของ EI ในการวางกลยุทธ์ ESG

กลยุทธ์ ESG ต้องการความเข้าใจลึกซึ้งในพฤติกรรมของมนุษย์และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในระดับองค์กร ซึ่ง EI เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ ความรู้สึก และแรงจูงใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ได้ดียิ่งขึ้น การประยุกต์ใช้ EI ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

  1.   การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ลูกค้า พนักงาน ชุมชน และผู้ลงทุน เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินงานอย่างยั่งยืน EI ช่วยให้สามารถสื่อสารและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลยุทธ์ ESG ขององค์กรได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

 

  1.   การใช้ AI เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ

AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ ESG เช่น การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม การวัดผลกระทบทางสังคม และการบริหารจัดการความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมี EI เพื่อช่วยในการตีความผลลัพธ์และตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

  1.   การตัดสินใจที่มีจริยธรรมและเป็นธรรม

เมื่อ AI สามารถใช้ EI ในการประมวลผลข้อมูล จะช่วยในการตัดสินใจที่มีจริยธรรมและเป็นธรรมมากขึ้น การพิจารณาอารมณ์และผลกระทบต่อผู้คนจะทำให้กลยุทธ์ ESG มีความเข้มแข็ง และส่งผลดีต่อความยั่งยืนในระยะยาว ตัวอย่างเช่น การพิจารณาความต้องการของชุมชนในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ จะช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความไว้วางใจ

 

  1.   การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความยั่งยืน

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มี EI จะส่งผลให้พนักงานมีความตระหนักและรับผิดชอบต่อการดำเนินงานตามกลยุทธ์ ESG มากขึ้น การสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนจะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในสายตาของสังคม

 

การบูรณาการ EI กับ AI ในการวางกลยุทธ์ ESG เป็นแนวทางที่ช่วยให้องค์กรสามารถตอบโจทย์ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ EI ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในอารมณ์และความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขณะที่ AI ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ การทำงานร่วมกันของสององค์ประกอบนี้จะช่วยสร้างกลยุทธ์ที่ยั่งยืน และส่งผลดีต่อทั้งองค์กรและสังคมในอนาคตอย่างยั่งยืน