จระเข้ ยกทัพปลูกป่าชายเลน-ดูแลต่อ 10 ปี อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

by ESGuniverse, 2 กรกฎาคม 2567

จระเข้ ตอกย้ำนโยบายด้านความยั่งยืน ทวงคืนผืนป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศ ยกทัพปลูกป่าชายเลน-ดูแลต่อ 10 ปี อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

 

 

ระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นแหล่งทรัพยากรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและคุณค่าสูง เป็นระบบนิเวศที่อยู่ในแนวเชื่อมต่อระหว่างผืนแผ่นดินกับพื้นน้ำทะเลในเขตร้อนและกึ่งร้อน ประกอบไปด้วยสังคมพืชและสัตว์หลากชนิดดำรงชีวิตร่วมกัน ขณะเดียวกันตัวเองจะทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องและรักษาไว้ซึ่งความสมดุลของสิ่งแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการเป็นแหล่งกำเนิดห่วงโซ่อาหารของมวลมนุษย์ชาติอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ตรา ‘จระเข้’ (Jorakay) หนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้านวัตกรรม เพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง นอกจากมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้สอดคล้องกับเทรนด์เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ยังเน้นให้ความสำคัญกับโลกด้วยการลดผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านทุกกระบวนการทำงาน และส่งเสริม การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี

ปลูกป่าชายเลน พร้อมดูแลต่อเนื่อง 10 ปี

ล่าสุดจัดกิจกรรม ‘Jorakay Green Earth : พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า’ นำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่กว่า 63.5 ไร่ ร่วมปลูกต้นพังกาหัวสุมดอกแดง ต้นโกงกางใบเล็ก ต้นโกงกางใบใหญ่ และต้นฝาดดอกแดง รวมกว่า 45,000 ต้น ณ แปลงปลูกป่าชายเลน บ้านทอนนาหมู และบ้านทอนในแสง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง

ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการรวมพลังทีมผู้บริหาร-พนักงานอาสา-อาสาสมัครในพื้นที่ พร้อมร่วมดูแลป่าชายเลนผืนนี้เป็นระยะเวลา 10 ปี จระเข้ดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนภายใต้การผนึกกำลังกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย (Thailand Mangrove Alliance)

โดย จระเข้ เป็นหนึ่งใน 33 องค์กรในภาคีที่ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ-สร้างคาร์บอนเครดิตผ่านโครงการปลูกป่าชายเลนในหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ คาดผืนป่าขนาด 63.5 ไร่ จะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 600 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าตลอดระยะเวลา 10 ปี

 


ป่าชายเลน อุดมด้วยความหลากหลายทางระบบนิเวศ

นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ในส่วนของกรมทรัพยากรทางเลนและชายฝั่ง มีส่วนรับผิดชอบพื้นที่ป่านชายเลน ป่าชายหาด รวมทั้งพื้นที่ทางทะเลในประเทศไทย ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการปลูกป่า ทวงคืนผืนป่าเพื่อนำกลับมาฟื้นฟูคืนระบบนิเวศ เป็นระยะเวลานานหลายสิบปี

ส่วนปัจจุบันมีกลยุทธและนโยบายที่จะสร้างการมีส่วนร่วม ด้วยการดึงภาคส่วนของเอกชน ชุมชนในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกป่า และดูแลรวมทั้งใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ สามารถขยายพันธุ์สัตว์น้ำได้ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทางกรมฯ ได้จัดทำโครงการปลูกป่าเพื่อใช้ประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งมีกำหนดพื้นที่ไว้ทำโครงการระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2574 ในพื้นที่เป้าหมาย 300 ไร่ โดยในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับบริษัทจระเข้และทางจังหวัดตรัง คาดว่าในพื้นที่ 63 ไร่จะเป็นพื้นที่ป่าที่มีความสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ รวมทั้งชุมชนที่อยู่บริเวณโดยรอบก็จะได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมไปพร้อมๆกัน

 

 

 

Jorakay Green Earth
พาหัวใจสีเขียวไปปลูกป่า

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม Jorakay Green Earth เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของจระเข้บนเส้นทางการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ผ่านการตระหนักถึงคุณค่าของป่าชายเลนต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่เป็นทั้งแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ให้กับระบบนิเวศ

อีกทั้งยังเป็นแนวป้องกันการพังทลายชายฝั่งจากคลื่นลมและกระแสน้ำ และอีกหนึ่งบทบาทสำคัญคือการช่วยดูดซับคาร์บอนออกจากบรรยากาศ นอกจากนี้ ดินชุ่มน้ำในป่าชายเลน ยังช่วยกักเก็บคาร์บอนได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกประสบความสำเร็จในการสร้างคาร์บอนเครดิตจากการฟื้นฟูป่าชายเลน ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสดีในการส่งเสริมให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมช่วยโลกได้ผ่านกิจกรรมนี้

  

 

“โครงการในครั้งนี้ยังมีการส่งเสริมให้พนักงานสร้างบ้านปลาเป็นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องจากป่าชายเลนเป็นแหล่งน้ำปากอ่าวอุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งยังมีการใช้ต้นกล้าที่รับซื้อจากชาวบ้านโดยเลือกพันธุ์ให้เหมาะกับพื้นถิ่น ได้แก่ต้นพังกาหัวสุมดอกแดง ต้นโกงกางใบเล็ก ต้นโกงกางใบใหญ่ และต้นฝาดดอกแดง ตลอดจนสนับสนุนรัฐวิสาหกิจชุมชน จ้างงานชาวบ้านในพื้นที่ในการดูแลต้นไม้ต่อไป”

โครงการปลูกและดูแลป่าชายเลนครั้งนี้ สะท้อนความพร้อมของจระเข้ในการสร้างคาร์บอนเครดิตและมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต โดยจระเข้ดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ 5SD ซึ่งเป็น 5 แนวทางที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำ ได้แก่ กระบวนการผลิต เราเลือกใช้วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ Jorakay Green Pack นวัตกรรมถุงกาวซีเมนต์รักษ์โลก ไปจนถึงปลายน้ำ คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมนวัตกรรมที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการต่อยอดเป็นโครงการเพื่อยกระดับชุมชนและสิ่งแวดล้อม

 

 

 

“กิจกรรม Jorakay Green Earth ครั้งนี้เป้าหมายของเราคือการปักหมุดนโยบายความยั่งยืนที่ครบลูปเพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียว และช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน”

นายศุภพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายป่าชายเลนประเทศไทย เพื่อนำร่องปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่กว่า 63.5 ไร่ ร่วมกับพนักงานจิตอาสาและพี่น้องชาวจังหวัดตรัง พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้แก่ชุมชนในการร่วมดูแลรักษาป่าชายเลนผืนนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี มุ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ในระยะยาว

 

 

 จระเข้กับ 5 เป้าหมายเชิงกลยุทธ์

ซึ่งเป็นแนวทางเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความสุขให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว และสร้างสมดุลในการอยู่ร่วมกัน ได้แก่

1. ลดการปล่อย CO2: มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตและการดำเนินงานทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ

2. ลดปริมาณขยะและของเสีย: จัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรีไซเคิลขยะให้เกิดประโยชน์และลดปริมาณขยะที่ไม่จำเป็น

3. ลดการใช้สารพิษ: ลดการใช้และการปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายในกระบวนการผลิต รวมถึงเสาะหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานและชุมชน

4. เพิ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: พัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน

5. สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต: สนับสนุนกิจกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิต ครอบคลุมด้านการศึกษา สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อม เดินหน้าทำงานร่วมกับชุมชนและองค์กร เพื่อสร้างผลกระทบที่ดีและสร้างความสัมพันธ์และสร้างสังคมที่ดีร่วมกันอย่างยั่งยืน

 

 

ทำธุรกิจเพื่อสร้างสมดุล

เราอยู่ได้-สังคมมีสุข-โลกอยู่ดี

จระเข้ ให้ความสำคัญในการทำธุรกิจเพื่อสร้างสมดุล “เราอยู่ได้-สังคมมีสุข-โลกอยู่ดี” ในทุกกระบวนการทำงานในองค์กร ตั้งแต่การคิดค้นนวัตกรรมสีเขียว การสรรหาวัตถุดิบที่เป็นมิตร การผลิตที่ใส่ใจ การลดของเสีย หรือขยะ การขนส่ง และกระจายสินค้าที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้การก่อสร้างและอยู่อาศัย ปลอดภัยถูกสุขภาวะ ไปจนถึงการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคน เพิ่มโอกาสให้กับคนในสังคม ภายใต้มาตรฐานและแนวดำเนินงานความยั่งยืน (Sustainable Development: SD)

ด้วยการเปิดตัว Jorakay Green Pack นวัตกรรมถุงกาวซีเมนต์โฉมใหม่ฉบับรักษ์โลกซึ่งใช้วัสดุรีไซเคิล 70% และลดความหนาของพลาสติกลง 60% พร้อมลดการใช้หมึกบนฉลากสินค้า ซึ่งบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตได้มากถึง 49% และจระเข้ โรด ฟิกซ์ เอ็กซ์เพรส นวัตกรรมปูนซ่อมแซมพื้นผิวถนนคอนกรีตชนิดปรับบาง สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 97% เมื่อเปรียบกับการซ่อมแซมถนนแบบเก่า

สนับสนุนกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้กับชุมชน และสังคมทั้งในด้านการศึกษา สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการ ปันความรู้กับครูพี่เข้ (JORAKAY Knowledge Sharing), จระเข้คัดสรร (JORAKAY Upcycling) จระเข้มีแต่ให้ (JORAKAY Product Sharing) และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสามารถพัฒนาทักษะคนได้ 12,274 คน

"มุ่งดำเนินธุรกิจต่อเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) และ สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล (ESG) ในทุกมิติ ทุกโครงการ ทั้งในด้านทรัพยากรน้ำ ป่าชายเลน แรงงานคน คุณภาพชีวิต เนื่องจากเป็นเรื่องที่ธุรกิจให้ความสนใจ ตลอดจนดำเนินการในองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล ป้องกันคอร์รัปชั่น สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ และมีนโยบายจัดซื้อจัดจ้างกับกลุ่มบริษัทที่สนับสนุนธุรกิจยั่งยืน" นายศุภพงษ์ กล่าว