ฉุดไม่อยู่แล้ว “ชาวสวนยาง”ยิ้มรับราคายางแผ่นพุ่ง 60 บาท ส่วนน้ำยางสดทะลุ 50 บาทต่อกก. เหตุจากการส่งเสริมเพิ่มการใช้ยางในประเทศ ดันราคาขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ แต่ยังหวังราคาพุ่งทะลุ 60 บาท ตามที่รัฐบาลหาเสียงไว้
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ยางพาราในปี 62 ช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน ราคาน้ำยางสดมีการปรับตัวขึ้นมาตลอด
ทั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการด้านยางพาราของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ เช่น โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ที่นำน้ำยางสดไปทำถนนพาราซอยซีเมนต์ในหมู่บ้านทั่วประเทศ ระยะทาง 300,000 กิโลเมตร เป้าหมายใช้น้ำยางสดประมาณ 1 ล้านตัน เพื่อดูดซับปริมาณน้ำยางในประเทศออกจากตลาดนำไปสร้างสาธารณูปโภคให้มากขึ้น
นับเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคายางเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี ปัจจุบันราคาน้ำยางสดอยู่ในระดับ 50.00 บาท/กก. เมื่อเปรียบเทียบกับอินโดนีเซียพบว่าราคาน้ำยางสดของไทยสูงกว่า รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ที่ทำให้นักลงทุนอุตสาหกรรมยางโดยเฉพาะยางล้อเข้ามาตั้งโรงงานผลิตยางล้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าราคายางของไทยเคลื่อนไหวตามความต้องการใช้จริง ไม่ได้อิงการส่งออกตามตลาดต่างประเทศ
ด้านราคายางแห้ง ยางแผ่นรมควันและยางก้อนถ้วย เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจาก กยท. เข้าไปประมูลยางแผ่นรมควันที่ตลาดกลางยางพารา จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี ต่อเนื่องตั้งเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยซื้อในราคาที่เหมาะสมและชี้นำตลาด เพื่อนำไปขายให้โรงงานที่ยังต้องการซื้อเพราะปริมาณยางในตลาดลดลง
เนื่องจากผลผลิตยางถูกนำไปใช้แปรรูปในประเทศมากขึ้น ทำให้ราคายางแผ่นรมควันตลาดกลางปรับตัวสูงขึ้นจาก 40.00 บาท/กก. มาอยู่ที่ 55.00 บาท/กก. ส่วนราคาส่งออก FOB ท่าเรือกรุงเทพฯ ทะลุ 60.00 บาท/กก. ไปแล้วตั้งแต่เดือนพ.ค.
สำหรับความคืบหน้าโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางที่รัฐบาลให้ กยท.เร่งช่วยเหลือเกษตรกรช่วงราคายางตกต่ำ ภายใต้งบประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยจ่ายเงินไร่ละ 1,800 บาท ให้เจ้าของสวนยาง 1,100 บาท/ไร่ คนกรีดยาง 700 บาท/ไร่ สิทธิ์ไม่เกิน 15 ไร่/ราย ปัจจุบันจ่ายเงินเกิน 90% ของเป้าหมายแล้ว และคาดว่าจะจ่ายเงินได้ 100% ภายในเดือนมิถุนายน ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาราคายางระยะยาว กยท.ส่งเสริมให้ชาวสวนยางปลูกยางในพื้นที่เหมาะสมเพื่อลดพื้นที่ปลูกยางที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากต้นทุนการปลูกสูงผลผลิตต่ำ อีกทั้งปัจจุบันสินค้าเกษตรทุกชนิดจะแข่งขันกันที่คุณภาพ กยท.จึงต้องหายางพันธุ์ดี เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตพร้อมหาวิธีการลดต้นทุน ผลักดันให้เกษตรกรเพิ่มมูลค่ายางด้วยการแปรรูปและพัฒนานวัตกรรมยาง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ
“กยท. ส่งเสริมให้เกษตรกรนำยางดิบมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า และส่งเสริมด้านการศึกษาวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยียาง เพื่อประโยชน์ในด้านการลงทุนอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางที่ดีมีคุณภาพ ส่งขายทั่วโลก อันนี้คือแผนงานระยะยาวที่ กยท. ต้องสนับสนุนสถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน นักวิจัยยาง และนักลงทุนที่ต้องมาบูรณาการดำเนินงานร่วมกัน” รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. กล่าว
นางบัวลอย บุญกูล เจ้าของสวนยางพารากรีดเองบ้านม่วงค่อม ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ราคาตอนนี้ก็ดีขึ้น ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น จาก 200-300 บาทต่อวัน เพิ่มมาเป็น 400-500 บาทต่อวัน อยากให้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ เหมือนที่รัฐบาลหาเสียงช่วงเลือกตั้ง 60-70 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าได้ตามที่ประกาศไว้ก็จะดีมาก”
นายปิยภัทร โพธิภักดี เจ้าของสวนยางที่มีลูกจ้างกรีดยาง บ้านไร่อ้อย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นถือว่าดีกว่าที่ผ่านมา แม้ว่าในช่วงนี้ที่ราคาเพิ่มขึ้น ชาวสวนต้องเจอปัญหาฝนตกทำให้ไม่สามารถกรีดยางได้ แต่ก็ทำให้ชาวสวนมีกำลังใจและพร้อมที่ออกไปกรีดยาง เมื่อเทียบกับราคาก่อนหน้านี้ที่ 38-40 บาทต่อกิโลกรัม
“ถามว่าพอใจหรือไม่กับราคาที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ ก็พอใจระดับหนึ่ง แต่ผมหวังและรอรัฐบาลใหม่ที่เคยหาเสียงช่วงเลือกตั้งว่าจะทำให้ราคายางพาราไปที่ 65 บาทต่อกิโลกรัม” นายปิยภัทร กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์วิจัยฯ ธ.ก.ส. เผย มิ.ย. ยาง – ปาล์ม-มันฯ-กุ้ง ราคายังทรุด