แบคทีเรียกินเนื้อ แผลพุพองจนติดเชื้อในกระแสเลือด มักเกิดที่บริเวณเท้า

แบคทีเรียกินเนื้อ แผลพุพองจนติดเชื้อในกระแสเลือด มักเกิดที่บริเวณเท้า

แบคทีเรียกินเนื้อคน หรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing Fasciitis) คือ ภาวะติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนที่อาจส่งผลให้ผิวหนังถึงชั้นกล้ามเนื้อถูกทำลาย จนติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตในที่สุด

 

โรคดังกล่าวพบได้ไม่บ่อย เพราะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงปกติจะไม่ประสบกับโรคนี้ แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไตวาย หัวใจ ปอดเรื้อรัง หากมีแผลพุพองแล้วไม่ดูแลรักษาไม่ดี มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบต่อการติดเชื้อได้ง่าย

แบคทีเรียกินเนื้อเกิดจากชนิดต่าง ๆ เช่น
• Group A Streptococcus
• คลอสตริเดียม (Clostridium)
• เคล็บเซลลา (Klebsiella)
• อีโคไล (E. Coli)

เชื้อในข้างต้นเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังหรือกระแสโลหิตจากการเกิดบาดแผลที่ดูแลรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ โดยมันจะไปทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังและกล้ามเนื้อเนื้อเยื่อตาย และสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยง ได้แก่
• การเดินไม่สวมรองเท้า
• ลุยโคลน น้ำขัง โดนเปลือกหอย หรือโดนของใต้น้ำบาด
• เศษไม้ แก้วบาด
• ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
• แมลงสัตว์กัดต่อย
• ใช้เข็มฉีดยา
• โดนข่วน จิก
• อุบัติเหตุ

อาการแบคทีเรียกินเนื้อ
• ปวดบาดแผลที่ผิวหนังร้อน แดง
• มีถุงน้ำ จุดดำ ตุ่ม และของเหลวซึมออกมา
• กล้ามเนื้อตึง
• มีไข้
• วิงเวียนศีรษะ
• คลื่นไส้
• ท้องเสีย
• กระหายน้ำ
• ปัสสาวะน้อย

ผ่านไป 3-4 วัน จะรุนแรงขึ้น
• ผื่นสีม่วงขึ้น
• ตุ่มน้ำส่งกลิ่นเหม็น
• เนื้อเยื่อหลุดลอก
• ผิวหนังเปลี่ยนสี
• ความดันโลหิตต่ำ
• หมดสติ

การวินิจฉัยแบคทีเรียกินเนื้อ

ด้วยความที่โรคนี้มีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ หรืออาจเป็นภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด มักจะวินิจฉัยในระยะที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจดังนี้
• ดูอาการผิดปกติทางผิวหนัง
• ตรวจกล้ามเนื้อเพื่อดูความเสียหาย จาก CT Scan หรือ MRI
• ตรวจหาแบคทีเรียทางของเหลว เนื้อเยื่อ ของผู้ป่วย

วิธีรักษาโรคแบคทีเรียกินเนื้อ
 การใช้ยา
• หลายชนิดรวมกันผ่านทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ร่างกายสู้กับภาวะติดเชื้อ เช่น
• ยาปฏิชีวนะ
• ยาควบคุมความดันโลหิต
• สารภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกลบูลิน

 การผ่าตัด
• กำจัดเนื้อเยื่อที่เสียหาย
• หยุดการกระจายของเชื้อ
• หากรุนแรงอาจต้องตัดอวัยวะบริเวณนั้นทิ้ง
นอกจากนี้บางกรณีผู้ป่วยอาจได้รับการถ่ายเลือด หรือหากเกิดภาวะช็อก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

การป้องกันแบคทีเรียกินเนื้อ
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
• ออกกำลังกายเป็นประจำ
• สวมใส่เครื่องแต่งกายอย่างมิดชิดเมื่อออกจากบ้าน
• ล้างมือด้วยน้ำสะอาดบ่อย ๆ
• เมื่อมีบาดแผลควรห้ามเลือดทันที โดยให้น้ำไหลผ่านบาดแผล และใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง
• ใช้พลาสเตอร์ หรือผ้าปลอดเชื้อปิดบาดแผล เปลี่ยนทุกครั้งเมื่อเปียกน้ำ
• หากสัมผัสกับผู้ป่วยโรคนี้ รีบไปปรึกษาแพทย์ที่สถานพยาบาล
เกษตรกรที่ทำไร่ ไถนา เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบ ควรสวมใส่รองเท้าบูตขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ว่าคนที่อยู่ในเมืองหลวง หรือเขตอุตสาหกรรมก็สามารถเป็นได้เช่นกัน ยกตัวอย่างกรณีเจ้าของร้าน อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด ที่เป็นกระแสโด่งดังอยู่ในโซเชียลมีเดีย ผู้ชายวัย 21 ปี ต้องลาจากโลกนี้ไป เพราะติดเชื้อในกระแสโลหิต จากการเป็นแผลพุพองที่เท้า.

ที่มา: โรงพยาบาลเพชรเวช

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

กรมการแพทย์ห่วงใยประชาชนแนะแนวทางวิธีป้องกัน PM 2.5
https://www.thaiquote.org/content/249698

การนอนหลับอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพของหัวใจ
https://www.thaiquote.org/content/249687

หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน ภัยร้ายอันตรายกว่าที่คิด
https://www.thaiquote.org/content/249630