เมื่อฤดูร้อนทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีดูแลตัวเอง ครอบครัว และสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากคลื่นความร้อนในยุคโลกร้อน
หลังจากปี 2023 ทำสถิติอุณหภูมิโลกเฉลี่ยสูงสุด ปี 2024 ก็เริ่มต้นด้วยการร้อนขึ้นอย่างรุนแรงโดยเฉพาะในซีกโลกเหนือ โดยข้อมูลจาก NASA ชี้ว่าเดือนพฤษภาคม 2024 กลายเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาในประวัติศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงทำให้โลกอบอุ่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้คลื่นความร้อนรุนแรง เกิดบ่อย และกินเวลายาวนานยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สังคม และระบบนิเวศอย่างไม่อาจมองข้าม
เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมในโลกที่ร้อนขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ National Geographic ได้สรุปคำแนะนำที่ผ่านการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ ดังนี้
1.ร่างกายอาจปรับตัวได้… แต่ไม่ใช่กับทุกความร้อน
แม้คนแข็งแรงก็ยังมีขีดจำกัดในการทนความร้อน หากอุณหภูมิแตะ 95°F (ประมาณ 35°C) ร่วมกับความชื้นสูง ร่างกายอาจไม่สามารถระบายเหงื่อได้เพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะล้มเหลวจากความร้อน ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้
2. ความร้อนทำร้ายสุขภาพได้ในแบบที่คุณอาจไม่รู้
ไม่ใช่แค่เป็นลมหรือเพลียแดดเท่านั้น แต่อากาศร้อนยังสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของโรคหัวใจ ไต หอบหืด และการติดเชื้อ เช่น ทางเดินปัสสาวะหรือนิ่วในไต ซึ่งหลายครั้งไม่ได้สะท้อนในใบมรณบัตรว่า “ความร้อน” เป็นสาเหตุร่วม
3. หญิงตั้งครรภ์ต้องระวังเป็นพิเศษ
งานวิจัยพบว่าความร้อนสูงทำให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ทารกเสียชีวิตในครรภ์ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อหญิงตั้งครรภ์มีแนวโน้มขาดน้ำและระบายเหงื่อได้น้อยลง
4. อย่ามองแค่ตัวเลขในตอนกลางวัน
เครื่องมือพยากรณ์ความร้อนใหม่ของ CDC ชื่อ HeatRisk แสดงให้เห็นว่า “อุณหภูมิกลางคืน” ที่สูงผิดปกติก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ร่างกายไม่ได้พักและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
5. สนามเด็กเล่นอาจเป็นกับดักร้อนสำหรับลูกคุณ
วัสดุอย่างโลหะ ยาง และพลาสติกในสนามเด็กเล่นสามารถดูดซับความร้อนจากแดดและเปลี่ยนเป็น “เกาะความร้อน” ขนาดเล็ก ควรเลือกเวลาเล่นในช่วงเช้าหรือเย็น และหาพื้นที่ร่มเป็นหลัก
6. สัตว์เลี้ยงก็เสี่ยงโรคลมแดดเช่นกัน
อาการเช่น หายใจหอบ น้ำลายไหล กระสับกระส่าย หรือยืนเลียอุ้งเท้าบ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณว่าพวกมันร้อนเกินไป อย่าปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ และเลี่ยงการพาเดินบนพื้นร้อนจัด
7. พัดลมอาจเป็นศัตรูในบางสถานการณ์
เมื่ออุณหภูมิพุ่งสูง การใช้พัดลมอาจไม่ช่วยคลายร้อน แต่ยิ่งพาอากาศร้อนเข้าร่างกาย หากไม่มีเครื่องปรับอากาศ ควรใช้วิธีลดความร้อนทางกาย เช่น แช่เท้าในน้ำเย็น อาบน้ำบ่อย หรือใช้ผ้าชุบน้ำประคบ
8. เติมเกลือเล็กน้อยในน้ำ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
การดื่มน้ำอย่างเดียวอาจไม่พอ ร่างกายยังต้องการอิเล็กโทรไลต์ เช่น โซเดียมหรือโพแทสเซียมเพื่อรักษาสมดุลน้ำในเซลล์ คุณสามารถเติมเกลือเล็กน้อยลงในน้ำ หรือเลือกอาหารที่มีเกลืออย่างพอดี
9. อย่าทิ้งขวดน้ำพลาสติกไว้กลางแดด
เมื่อขวดพลาสติกถูกแดดเผานาน สารเคมีอาจซึมลงในน้ำที่คุณดื่ม ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า คือการใช้ขวดน้ำสแตนเลส หรือขวดที่ออกแบบมาให้ทนความร้อนและปลอดสาร BPA
10. ระวังน้ำเย็นจัดอาจทำให้คุณจมน้ำ
การกระโดดลงน้ำเย็นทันทีในวันที่อากาศร้อนจัดอาจกระตุ้น “ช็อกจากน้ำเย็น” ทำให้หายใจลำบากและควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้ เสี่ยงต่อการจมน้ำอย่างคาดไม่ถึง วิธีที่ปลอดภัยคือค่อยๆ ปรับตัว หรือใส่เสื้อชูชีพก็พอ
