Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลายคนยังคงมองว่ามีความเสี่ยง แต่ในระดับโลก Bitcoin เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา จีน สหราชอาณาจักร
แต่ใครจะคิดว่า ในประเทศเล็ก ๆ ที่ ธรรมชาติสวยงาม และเงียบสงบ อย่าง ‘ภูฏาน’ ที่ประชาชนราว 8 แสนคนเน้นใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ห่างไกลเทคโนโลยี จะซ่อนเหมือง Bitcoin ที่ใช้ ‘พลังงานสะอาด’ มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.8 หมื่นล้านบาท) ไว้อยู่ กลับกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือ Bitcoin เป็นทุนสำรองสูงสุดของโลก คิดเป็น 27% ของ GDP ทั้งประเทศ
แล้วเขาใช้ Bitcoin ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างไร? ESG Universe รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจไว้แล้ว มาติดตามไปพร้อมๆ กันเลย
ประเทศเล็ก ๆ ที่เน้นความสุขของประชาชนเป็นหลัก
ภูฏานเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่โอมล้อมด้วยขุนเขา มีธรรมชาติที่สวยงาม สถาปัตยกรรมแปลกตา ประชากรในประเทศก็แค่เกือบ 8 แสนคนเท่านั้น ซึ่งแนวคิดการพัฒนาก็ไม่เหมือนประเทศอื่น เพราะเน้นไปที่ความสุขของประชาชนเป็นหลัก ทำให้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ประชากรมีความสุขอันดับต้น ๆ ของโลก
ในขณะที่หลายประเทศยังคงต่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจและหาทางออกจากการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล ประเทศเล็กๆ ในเทือกเขาหิมาลัยอย่าง ‘ภูฏาน’ กลับสร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งด้วยการทำเหมือง Bitcoin มูลค่าถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยใช้พลังงานสะอาด 100%
เรื่องราวนี้ไม่ได้เป็นเพียงข่าวเศรษฐกิจธรรมดา แต่เป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาว การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาด และการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ของประเทศที่มีประชากรเพียง 770,000 คน
ที่น่าสนใจคือ การถือครอง Bitcoin ของ ‘รัฐบาลภูฏาน’ นอกจากจะใช้เป็นทุนสำรองแล้วยังสามารถใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ด้วย
การเปลี่ยนผ่านครั้งยิ่งใหญ่
ปี 2021 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อรัฐบาลภูฏานตัดสินใจเปลี่ยนโครงการ Education City ในเมืองหลวงทิมพูให้กลายเป็นศูนย์ขุด Bitcoin แห่งแรก ด้วยการลงทุนที่ดูกล้าหาญสำหรับประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้
ตัวเลขที่น่าตกใจคือ ระหว่างปี 2021-2023 ภูฏานทุ่มเงินลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท เพื่อสร้างอาณาจักร Bitcoin ของตน
จากแนวคิดสู่ความเป็นจริงด้วย พลังงานสะอาด
สิ่งที่ทำให้ภูฏานแตกต่างคือการมองการขุด Bitcoin เป็น “เหมืองสีเขียว” โดยใช้ประโยชน์จากพลังงานหมุนเวียนธรรมชาติที่ประเทศมีอย่างอุดมสมบูรณ์
ปี 2023 บริษัท DHI ของรัฐร่วมมือกับ Bitdeer จากสิงคโปร์สร้าง “กองทุนขุด Bitcoin สีเขียว” ขึ้น ปัจจุบันมีศูนย์ขุดทั้งหมด 5 แห่ง และกำลังสร้างแห่งที่ 6
เมื่อประชาชนรู้เท่าทัน
การสำรวจของมหาวิทยาลัยในประเทศเผยให้เห็นภาพที่น่าประทับใจ นักศึกษากว่า 91% รู้จักคริปโตเคอเรนซี และส่วนใหญ่มีทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีนี้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสามารถสร้างความเข้าใจและการยอมรับจากประชาชนได้สำเร็จ
กำไรที่ได้จาก Bitcoin เอาไปพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
ภูฏาน ดินแดนที่เคยพึ่งพารายได้หลักจากการท่องเที่ยว การขายไฟฟ้าพลังน้ำ และการเกษตร กลับต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจหนักหน่วงเมื่อโควิด-19 ปิดกั้นนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าประเทศ แต่แทนที่จะยอมแพ้ รัฐบาลภูฏานกลับเลือกเส้นทางที่ไม่มีใครคาดคิด
โดยที่รายได้จากการทำเหมืองขุด Bitcoin และการขายคริปโตเคอเรนซี รัฐบาลนำไปใช้สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศ เช่น ในปี 2023 ได้ใช้ผลกำไรจากการขาย Bitcoin เพื่อเพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการ 50% ไปพัฒนาทุนส่วนๆ อื่นๆ ในประเทศ หรือพูดง่ายๆ ว่าในการขายทำกำไรแต่ละครั้งรัฐบาลจะเอาเงินไปใช้พัฒนาให้ประชาชน
สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือการนำผลกำไรมาใช้เพื่อประชาชน ปี 2023 รัฐบาลใช้เงินจากการขาย Bitcoin เพิ่มเงินเดือนข้าราชการ 50% และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียคาดการณ์ GDP ของภูฏานจะเติบโต 4.4% ในปีนี้ และพุ่งขึ้น 7% ในปี 2025 ถือเป็นตัวเลขที่เติบโตไม่น้อยเลยทีเดียว
วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
ภูฏานไม่ได้หยุดแค่ Bitcoin เท่านั้น แต่ขยายการลงทุนไปสู่เทคโนโลยีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโดรน ศูนย์ข้อมูล และแม้กระทั่งเหมืองแร่สำหรับสกัดแมกนีเซียมและกราฟีน
บทเรียนแห่งการปรับตัว
เรื่องราวของภูฏานสะท้อนให้เห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับวิถีชีวิตและค่านิยมดั้งเดิม ประเทศที่เคยขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบและการห่างไกลเทคโนโลยี กลับกลายเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความมั่งคั่งและความสุขให้กับประชาชน
ภูฏานพิสูจน์แล้วว่า แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความกล้าหาญในการปรับตัว สามารถเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้อย่างงดงาม
สิ่งที่ประเทศและประชาชนได้รับ
- การสร้างรายได้แผ่นดิน
รายได้จาก Bitcoin กลายเป็นแหล่งเงินสำคัญที่รัฐบาลนำไปใช้ในการ
- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ลงทุนในการศึกษาและสาธารณสุข
- สร้างกองทุนสำรองเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
- การสร้างงานและพัฒนาทักษะ
แม้การทำเหมือง Bitcoin จะใช้แรงงานคนไม่มาก แต่ก็สร้างงานในด้านต่าง ๆ เช่น
- การดูแลรักษาและซ่อมแซมเครื่องจักร
- การบริหารจัดการระบบ IT
- การพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้คนในชาติ
- การยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ
ภูฏานกลายเป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศที่ใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและประเทศอื่น ๆ
บทเรียนสำคัญที่ไทยควรเรียนรู้
- การใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเชิงธรรมชาติ
ภูฏานแสดงให้เห็นว่าการรู้จักข้อได้เปรียบของตนเองและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ
- ความสำคัญของพลังงานสะอาด
การใช้พลังงานสะอาด 100% ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังตอบโจทย์ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้การทำเหมือง Bitcoin ของภูฏานไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้พลังงาน
- การมองการณ์ไกลของรัฐบาล
ความสำเร็จของภูฏานมาจากการที่รัฐบาลกล้าตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ และมีวิสัยทัศน์ในการสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่
- การบริหารความเสี่ยง
การถือ Bitcoin เป็นทุนสำรองแสดงให้เห็นถึงการบริหารความเสี่ยงที่ดี โดยไม่วางไข่ใส่ตะกร้าใบเดียว
ความท้าทายและข้อควรระวัง
- ความผันผวนของราคา Bitcoin
Bitcoin มีความผันผวนสูง ราคาอาจขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ภูฏานจึงต้องมีแผนรองรับความเสี่ยงนี้
- การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
เทคโนโลยี Bitcoin เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การลงทุนในอุปกรณ์ใหม่อาจจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง
- กฎระเบียบระหว่างประเทศ
การควบคุม cryptocurrency ของประเทศต่างๆ อาจส่งผลต่อมูลค่าและการใช้งาน Bitcoin
แรงบันดาลใจสำหรับอนาคต
เรื่องราวของภูฏานเป็นมากกว่าการทำเหมือง Bitcoin เพื่อหาเงิน เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ตนเองได้ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างชาญฉลาด การมีวิสัยทัศน์ระยะยาว และความกล้าหาญในการลองสิ่งใหม่
สำหรับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค บทเรียนจากภูฏานชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการใช้พลังงานสะอาดอาจเป็นเส้นทางสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต
ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จของภูฏานไม่ได้อยู่ที่ตัวเลข 1,000 ล้านเหรียญเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การที่พวกเขาสามารถสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศและประชาชนได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีและธรรมชาติอย่างสมดุล
การเรียนรู้จากตัวอย่างของภูฏานแสดงให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ใหม่จากเทคโนโลยี cryptocurrency ได้ โดยใช้ข้อได้เปรียบด้านทรัพยากรธรรมชาติและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม
สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะเป็นประเทศเล็ก ๆ ในหุบเขา เมืองที่โดดเด่นในธรรมชาติ ศาสนาพุทธ ความเงียบสงบ ห่างไกลเทคโนโลยี แต่ภูฏานก็สามารถสร้างแนวทางใหม่ในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ด้วยแนวคิดที่ไม่เหมือนใครและความกล้าหาญในการนำเสนอนวัตกรรมนี้
สะท้อนให้เห็นว่า แม้ในประเทศที่เงียบสงบและห่างไกลจากเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ใครจะคิดว่ารัฐบาลของเขาจะหัวสมัยใหม่ หาเงินเพื่อประเทศด้วยวิธีที่ล้ำยุคแต่ยั่งยืนขนาดนี้
อ้างอิง
https://cryptoforinnovation.org/bhutans-bitcoin-mining-reveals-wider-interest-in-digital-assets/
https://cointelegraph.com/news/bhutan-bitcoin-mining-with-hydropower-since-btc-price-was-5-000
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
ฝนตกทีไร ไฟสว่างทุกครั้ง! ส่อง เทคโนโลยี ‘Plug Flow’ นวัตกรรมเปลี่ยนหยดน้ำฝนให้เป็นพลังงานสะอาด