อากาศเปลี่ยน เมืองเปลี่ยน เรียนรู้เพื่อปรับตัว

by ESGuniverse, 30 เมษายน 2567

นักวิชาการสถาบันสิ่งแวดล้อม แนะสร้างเมืองยืดหยุ่นรับสภาพอากาศแปรปรวน (Urban Climate Resilience) พร้อมปรับตัวภัยทางธรรมชาติยากคาดเดา

 

 

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดงานสัมมนา แนวทางการขับเคลื่อนดำเนินงานด้าน Climate Resilience City เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำนำเสนอประเด็น “Urban Climate Resilience” แนวคิด หลักการ และการขับเคลื่อนการบริหารจัดการเมืองให้ปรับตัวและเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

 

ดร.ผกามาศ ถิ่นพังงา ผู้อำนวยการโครงการ SUCCESS สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI ร่วมเป็นวิทยากรให้มุมมองว่า ปัญหาเมืองเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นประเด็นปัญหาใหม่ ทั้งทางด้านกายภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่มีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น การพัฒนาเมืองในปัจจุบันสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม และไร้ทิศทาง เป็นเหตุให้เพิ่มความเสี่ยงและความเปราะบางของชุมชนมากขึ้น

จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้ปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเมือง และผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งทางกายภาพ สังคม สิ่งแวดล้อม ความเสี่ยง และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเข้าใจสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดความเปราะบางของเมืองและชุมชนอย่างแท้จริง

พร้อมแนะแนวทางการแก้ปัญหาว่า จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ ทั้งแนวทางการพัฒนา แผนงาน นโยบาย วิธีปฏิบัติ ซึ่งโจทย์ใหญ่ที่สำคัญคือ ทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมและสร้างความเท่าเทียม

“กระบวนการสร้าง “Climate Resilience” เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่เหมือนเดิมอีก ต้องเรียนรู้ ทบทวน บทเรียนจากในอดีตและเสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน”

 

 

สร้างขีดความสามารถในการปรับตัว

ถ้าจะสร้างเมืองให้เป็น Urban climate resilience หรือ Resilient City จำเป็นต้องมี การสร้างขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ (adaptive capacity, climate adaptation) มีการจัดการความเสี่ยง และผลกระทบ จากภัยพิบัติ

แผนงานต้องคำนึงถึงคนทุกระดับเท่าเทียมกัน

การวางแผน นโยบาย แนวทางปฏิบัติ และการพัฒนาเมือง ที่คำนึงถึงคนในทุกระดับชั้นและเท่าเทียมกัน สามารถเข้าถึงระบบเมืองและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ครอบคลุมคนชายขอบ คนยากจน และกลุ่มคนเปราะบาง และต้องมีการเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนวิถีปฏิบัติและการดูแลกำกับเมือง

 

 

เมืองเติบโตด้วยการรักษาระบบนิเวศ

ดร.ผกามาศ ยังให้ข้อคิดอีกว่า “แนวทางสนับสนุนให้เมืองเป็นแบบ “Urban climate resilience หรือ Resilient City จำเป็นต้องเน้นให้เมืองเติบโตด้วยการรักษาระบบนิเวศ โดยบูรณาการแนวทางการปรับตัวที่อยู่อาศัยระบบนิเวศ (Eco-based approaches: EbA) และแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based solutions: NbS) ให้ความสำคัญกับ ระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ รักษาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบ และรักษาแหล่งอาหารควบคู่กันไปด้วย


การเสวนา แนวทางการขับเคลื่อนดำเนินงานด้าน Climate Resilience City เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ จัดขึ้นเพื่อเสริมองค์ความรู้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้าน Climate Resilience City” ผ่านระบบ Zoom Meeting ให้กับผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานชนะเลิศเทศบาลน่าอยู่ อย่างยั่งยืน ยอดเยี่ยมระดับประเทศ รางวัลถ้วยพระราชทานเทศบาลด้านสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน ยอดเยี่ยมระดับประเทศ และรางวัลชนะเลิศองค์การบริหารส่วนตำบล น่าอยู่ อย่างยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับประเทศ จำนวน 43 แห่ง ทั่วประเทศ